กรุงเทพฯ – วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้ก้อนหินปาใส่รถยนต์ที่สัญจรบนถนนบางนา ล่าสุดที่สถานีตำรวจนครบาลบางนา น.ส.อรสินี อายุ 20 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของรถคันที่ถูกปาหินใส่ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน

น.ส.อรสินี เปิดเผยถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า ขณะที่เธอกำลังขับรถไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านบางนา เพื่อนำรถไปล้าง และกำลังจะกลับรถบริเวณจุดเกิดเหตุ ก็มีวัตถุตกลงมากระแทกใส่รถอย่างแรง เธอพยายามประคองรถเข้าจอดชิดขอบทางด้านซ้าย และหันไปมองด้านหลังจึงได้เห็นว่าเป็นก้อนหิน

แรงกระแทกจากก้อนหินทำให้บริเวณกระจกหน้าและส่วนด้านหน้ารถของเธอได้รับความเสียหายอย่างหนัก นอกจากนี้ เธอยังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมีอาการถลอกจากการกระเด็นของเศษกระจก

ผู้เสียหายกล่าวว่า ในวันนี้เพิ่งทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดจากเศษปูนหรือวัสดุจากการก่อสร้างบนทางพิเศษที่หล่นลงมา แต่เป็นการกระทำของมนุษย์ เธอรู้สึกเบาใจมากขึ้นเมื่อได้ทราบความจริงนี้ เพราะหากเป็นการกระทำของคน ตนก็เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ ซึ่งเมื่อจับกุมได้คดีก็จะจบ

จากภาพในคลิปวงจรปิดขณะก่อเหตุ ผู้เสียหายเห็นว่าผู้ก่อเหตุมีเจตนาจงใจปาหินใส่รถยนต์ของเธอโดยตรง แต่เธอมองว่าหากได้เจอตัวผู้ก่อเหตุ ก็คงไม่ได้อยากสอบถามอะไรมากนัก เพราะอาจเป็นไปได้ว่าผู้ก่อเหตุมีอาการป่วย หรือมีปัญหาทางจิตบางอย่าง จึงขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

ทางด้านความคืบหน้าทางคดี พันตำรวจเอก สุรพงษ์ สุขแย้ม ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางนา ได้เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะการไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและเส้นทางใกล้เคียง ซึ่งขณะนี้ทีมสืบสวนได้ภาพถ่ายใบหน้าของผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุขณะกำลังใช้ก้อนหินขว้างปาแล้ว

พันตำรวจเอก สุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ประกอบการขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุตามภาพจากกล้องวงจรปิด ส่วนเส้นทางการหลบหนีของผู้ก่อเหตุภายหลังลงมือแล้ว ก็กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด

ในส่วนของมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุร้ายครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะมีการมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์สิน โดยเลือกเป้าหมายเป็นรถยนต์ที่มีราคาแพง ส่วนจะเป็นบุคคลเร่ร่อน หรือมีประวัติปัญหาทางจิตหรือไม่นั้น ยังคงอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนก่อนที่จะนำไปสู่การจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป