ด่วน! จับแล้วหนุ่มปาหินใส่รถเก๋งบางนาคาลาดพร้าว ที่แท้คนเร่ร่อนวัย 45 สารภาพสิ้น
กรุงเทพฯ – ด่วน! เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางนา สามารถติดตามจับกุมชายต้องสงสัยก่อเหตุปาหินใส่รถเก๋งบนถนนบางนา-ตราด เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้แล้ว โดยรวบตัวได้ที่บริเวณย่านลาดพร้าว เบื้องต้นพบเป็นชายเร่ร่อนวัย 45 ปี ซึ่งผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 กรณีที่มีผู้เสียหายเป็นเจ้าของรถเก๋งคันหนึ่งประสบเหตุถูกของแข็งตกลงใส่รถบริเวณถนนบางนา-ตราด ขาเข้า ช่องทางด่วน แขวงบางนา กรุงเทพมหานคร ทำให้กระจกหน้ารถได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในช่วงแรกมีการเข้าใจผิดว่าอาจเป็นเศษปูนจากโครงสร้างสะพานตกลงมา แต่ภายหลังจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้ข้อสรุปว่าเป็นการกระทำของบุคคลที่จงใจโยนก้อนหินลงมาใส่รถยนต์ โดยมีคลิปวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้
นางสาวอรสินี อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย ได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สน.บางนา เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ขณะกำลังขับรถเพื่อนำไปล้างที่ห้างสรรพสินค้า ย่านบางนา และกำลังจะยูเทิร์นรถกลับ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็มีสิ่งของตกลงมาใส่รถอย่างแรง จึงรีบนำรถเข้าข้างทางและพบว่าเป็นก้อนหิน เธอเปิดเผยว่า รู้สึกเบาใจมากขึ้นเมื่อทราบจากตำรวจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากเศษปูนโครงสร้าง แต่เป็นการกระทำของคน เพราะหมายความว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำผิดได้ เธอยังกล่าวถึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจเล็งและปาหินใส่รถของเธอ แต่หากได้พบตัวผู้ก่อเหตุ ก็คงจะให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการตามกฎหมายมากกว่า โดยตั้งข้อสังเกตว่าผู้ก่อเหตุอาจมีอาการป่วยทางจิต
ล่าสุด ความคืบหน้าในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา ได้ระดมกำลังลงพื้นที่หาข่าวและแกะรอยติดตามผู้ต้องสงสัยจากพยานหลักฐานและคลิปวงจรปิดอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสืบทราบว่าชายคนดังกล่าวได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่บริเวณย่านลาดพร้าว จึงได้นำกำลังเข้าแสดงตัวและควบคุมตัวได้ในที่สุด
จากการสอบสวนเบื้องต้น ชายผู้ก่อเหตุมีอายุ 45 ปี ให้ข้อมูลว่าเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และได้รับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุปาหินใส่รถเก๋งของผู้เสียหายจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงได้ควบคุมตัวมายัง สน.บางนา เพื่อดำเนินการสอบปากคำอย่างละเอียดต่อไป โดยมีรายงานว่า พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเดินทางมาทำการสอบปากคำผู้ต้องหาในคดีนี้ด้วยตัวเอง เพื่อขยายผลและสรุปสำนวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป