ตร.ปิดล้อมระทึก! ‘เต้ วัดยาง’ ยังคลั่ง ไม่เลิกเจรจา พบประกอบระเบิดพร้อมจุด สั่งเฝ้าระวังเข้ม
กรุงเทพฯ – สถานการณ์ปิดล้อมชายคลั่งภายในบ้านพักย่านบางกอกน้อยยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงใช้ยุทธวิธีเจรจา หลังพบผู้ก่อเหตุมีระเบิดแสวงเครื่องอยู่ในครอบครองและพร้อมใช้งานตลอดเวลา สั่งเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านพักหลังหนึ่งหลังวัดลครทำ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุคือ นายณัฐวัชต์ หรือ ‘เต้ วัดยาง’ อายุ 31 ปี มีพฤติกรรมคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าและยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เป็นระยะ
เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ได้เดินทางออกจากพื้นที่ปิดล้อมภายหลังใช้เวลาเจรจากับผู้ก่อเหตุนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยเปิดเผยความคืบหน้าเบื้องต้นว่า การเจรจายังไม่ประสบความสำเร็จสมบูรณ์ แม้ผู้ก่อเหตุจะมีท่าทีอ่อนลงบ้างเป็นช่วงๆ แต่ยังคงถืออาวุธปืนอยู่ตลอดเวลา และไม่ได้มีข้อเรียกร้องพิเศษใดๆ เป็นที่ชัดเจน
พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า ตามยุทธวิธีของเจ้าหน้าที่ ตำรวจยังไม่สามารถตัดสินใจบุกจู่โจมได้ในทันที เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ ‘จุดวิกฤต’ ที่ผู้ก่อเหตุทำร้ายผู้อื่นในวงกว้าง หรือมีตัวประกันอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยขณะนี้ภายในบ้านมีเพียงผู้ก่อเหตุอยู่เพียงลำพังเท่านั้น เพราะญาติและเพื่อนบ้านที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับการอพยพออกมาอยู่ในที่ปลอดภัยทั้งหมดแล้ว
แหล่งข่าวใกล้ชิดให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุมีความต้องการที่จะทำร้ายตัวเอง หรือต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าทำร้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงยังคงใช้การเจรจาเป็นหลัก เพื่อรอให้ผู้ก่อเหตุคลายความเครียดและฤทธิ์ยา (ซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอาการคลุ้มคลั่ง) จนมีสติและเหตุผลมากขึ้น จึงจะสามารถพูดคุยโน้มน้าวได้
ประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง คือข้อมูลที่ได้รับจากเพื่อนของผู้ก่อเหตุ ระบุว่า นายณัฐวัชต์ ได้ประกอบระเบิดขึ้นเอง โดยใช้ดินเทาที่มาจากลูกไข่ประทัดไล่นกมาผสมกันเป็นเหมือนระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็ก และที่สำคัญคือระเบิดดังกล่าว ‘พร้อมจะจุดตลอดเวลา’ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการปฏิบัติงาน เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีทั้งอาวุธปืน มีด และวัตถุระเบิดอยู่ในครอบครอง
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้พยายามนำตัวบุคคลใกล้ชิด ทั้งภรรยา ลูก พ่อ และพี่สาว ของผู้ก่อเหตุมาช่วยในการเจรจา แต่ผู้ก่อเหตุแสดงท่าทีปฏิเสธที่จะพูดคุยกับบุคคลที่สาม ทำให้การเจรจาต้องดำเนินไปโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นของผู้ก่อเหตุ พบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีความเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอย่างละเอียด
สถานการณ์ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปิดล้อมพื้นที่อย่างหนาแน่น และจะพยายามเจรจาต่อไปจนกว่าผู้ก่อเหตุจะยินยอมมอบตัวอย่างสันติวิธี เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย