จากกรณีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน์ หลังมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ เด็กสาวอายุเพียง 13 ปี ถูกกลุ่มเยาวชนหญิงและชายรุมทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยม ทั้งตบ ตี แตะ และถีบ โดยเฉพาะภาพเยาวชนชายที่ใช้รองเท้าทำร้ายใบหน้าเหยื่อจนได้รับบาดเจ็บ สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ได้ชมคลิปเป็นอย่างมากต่อพฤติกรรมดังกล่าว โดยเฉพาะการรุมทำร้ายคนเพียงคนเดียวและการกระทำรุนแรงต่อผู้หญิง

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุบริเวณประตูระบายน้ำปากคลองบางบาล ต.ไทรน้อย อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดที่ปรากฏในคลิป พบว่าเป็นพื้นที่โล่งกว้าง มีไฟส่องสว่าง และติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีรถยนต์สายตรวจของ สภ.บางบาล คอยตรวจตราดูแลความปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นายนัท ครูประจำชั้นของ ด.ญ.แก้ม (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียนหญิงชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บางบาล ซึ่งเป็นเหยื่อในคลิป นายนัท เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจอย่างมากเมื่อได้เห็นคลิปในโซเชียลมีเดีย และจำได้ทันทีว่าเป็นลูกศิษย์ของตน หลังสอบถามจากครอบครัว ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ ด.ญ.แก้ม ไม่กล้าบอกครอบครัวเรื่องที่ถูกทำร้าย โดยอ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปเปิดเผย

กระทั่งคลิปเหตุการณ์ถูกเผยแพร่ในวงกว้างทางโซเชียลมีเดีย ผู้ปกครองของ ด.ญ.แก้ม จึงได้ทราบเรื่องจริง และพบว่าลูกสาวได้รับบาดเจ็บอย่างชัดเจนที่บริเวณเบ้าตาและริมฝีปาก จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที นายนัท แสดงความเห็นว่า ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือเรื่องบาดหมางใดๆ เกิดขึ้น การใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเฉพาะการรุมทำร้ายนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ ด.ญ.แก้ม เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งยังคงมีร่องรอยบาดเจ็บที่บริเวณเบ้าตาและริมฝีปาก ด.ญ.แก้ม ได้เปิดใจเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนของเธอเคยมีปัญหาทะเลาะวิวาทกับกลุ่มเยาวชนหญิงและเยาวชนสาวประเภทสอง อายุประมาณ 15-17 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ปรากฏในคลิป แต่ตัวเธอเองไม่ได้มีปัญหากับกลุ่มนี้โดยตรง

ด.ญ.แก้ม เล่าต่อไปว่า ก่อนเกิดเหตุ หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ทักข้อความมาหาเธอ และนัดหมายให้เธอออกไปพบที่บริเวณประตูระบายน้ำปากคลองบางบาล โดยบอกให้เธอเป็นคนกลางช่วยเคลียร์ปัญหาระหว่างเพื่อนของเธอกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ เธอจึงได้เดินทางออกไปพร้อมกับเพื่อนคนที่มีปัญหา

“พอไปถึง ยังไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันเลยค่ะ พี่ที่เป็นสาวประเภทสองในกลุ่มเขาก็ดึงหนูลงจากรถมอเตอร์ไซค์ แล้วก็ตบเข้าที่หน้าหนูทันที จากนั้นก็มีพี่คนอื่นๆ ที่เป็นผู้หญิงเข้ามารุมทำร้ายหนูอีกค่ะ รวมถึงพี่ผู้ชายที่อยู่ในคลิปด้วยค่ะ” ด.ญ.แก้ม เล่าด้วยน้ำเสียงยังคงหวาดกลัว

ด้าน น.ส.ชุติมา อาของ ด.ญ.แก้ม เปิดเผยว่า ตกใจมากเมื่อเห็นคลิปหลานสาวถูกทำร้าย จึงรีบเดินทางมาทันทีและพาหลานสาวเข้าแจ้งความ จากการพูดคุยกับหลานทราบว่า หลานสาวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเคยมีปัญหากับกลุ่มผู้ก่อเหตุเลย แต่เพื่อนของหลานสาวไปบอกกับกลุ่มผู้ก่อเหตุว่าจะให้หลานสาวมาเป็นคนกลางช่วยเคลียร์ปัญหา

มีรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มเยาวชนหญิงผู้ก่อเหตุนี้เคยมีพฤติกรรมรุมทำร้ายร่างกายผู้อื่นมาก่อนหน้านี้แล้ว และมักจะถ่ายคลิปเหตุการณ์นำไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียเพื่อประจาน แต่สำหรับกรณีของ ด.ญ.แก้ม ถือเป็นการกระทำที่รุนแรงเป็นพิเศษ และยังมีการปรากฏภาพเยาวชนชายร่วมทำร้ายด้วย ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจและมีการแชร์คลิปอย่างกว้างขวาง

ในส่วนของการดำเนินคดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัว ด.ญ.แก้ม ไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลแล้ว และได้ทำการสอบปากคำ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานจากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งทำให้สามารถทราบตัวผู้ก่อเหตุที่ปรากฏในคลิปได้ทั้งหมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างเข้าสู่กระบวนการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายเยาวชนอย่างเคร่งครัด

เนื่องจากทั้งผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน การสอบสวนจึงต้องดำเนินการภายใต้ระบบ “สหวิชาชีพ” โดยมีนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก และพนักงานสอบสวนร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปตามหลักกระบวนการยุติธรรมและคุ้มครองสิทธิ์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง