ออสเตรเลียเผชิญเหตุการณ์น่าสลดในช่วงสุดสัปดาห์อีสเตอร์ที่ผ่านมา เมื่อคลื่นทะเลขนาดใหญ่และสภาพอากาศที่อันตรายได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 7 รายในรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย รวมถึงเด็กชายวัย 9 ขวบ โดยเจ้าหน้าที่และนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ออกมาเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่ออยู่ใกล้ชายหาด

สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงบีบีซี รายงานสถานการณ์น่าเศร้าที่เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์วันหยุดยาวอีสเตอร์ ซึ่งโดยปกติควรเป็นช่วงเวลาแห่งความรื่นเริงและกิจกรรมทางศาสนา แต่กลับกลายเป็นสุดสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีสำหรับเหตุการณ์จมน้ำเสียชีวิต

เหตุการณ์ล่าสุดที่สร้างความตกใจ คือการเสียชีวิตของเด็กชายวัย 9 ขวบที่ติดอยู่ระหว่างก้อนหินบริเวณชายหาดใกล้กับเมืองเซาท์เวสต์ ร็อกส์ (South West Rocks) ซึ่งอยู่ห่างจากซิดนีย์ไปทางเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร แม้ทีมฉุกเฉินจะสามารถเข้าช่วยเหลือและนำตัวเด็กชายขึ้นมาจากน้ำได้ แต่เขาก็เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำในช่วงสุดสัปดาห์อีสเตอร์ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 7 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 2 รายที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหา

นายสตีเวน เพียร์ช ซีอีโอขององค์กร Surf Life Saving ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นรัฐที่เกิดเหตุการณ์เสียชีวิตส่วนใหญ่ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เหตุการณ์จมน้ำที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ถือเป็น “เหตุการณ์จมน้ำที่เลวร้ายที่สุด” เท่าที่มีการบันทึกไว้ในช่วงสุดสัปดาห์อีสเตอร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจำนวนมากเดินทางไปพักผ่อนและทำกิจกรรมบริเวณชายหาด

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยได้พบพ่อและลูกชายลอยอยู่ในน้ำใกล้หาดวัตตาโมลลา (Wattamolla beach) ทางตอนใต้ของซิดนีย์ ลูกชายวัย 14 ปีได้รับการช่วยชีวิตไว้ได้ แต่ผู้เป็นพ่อได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ ตำรวจรัฐวิกตอเรียยังคงดำเนินการค้นหาชายวัย 41 ปีที่หายตัวไปใกล้กับเมืองซาน เรโม (San Remo) ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา

องค์กร Surf Life Saving รัฐนิวเซาท์เวลส์ เผยว่า ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลไปแล้วกว่า 150 รายนับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอันตรายของสภาพคลื่นลมในทะเลช่วงนี้

สาเหตุของเหตุการณ์น่าสลดที่เกิดขึ้นคาดว่ามาจากหลายปัจจัยประกอบกัน ทั้งอุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งทำให้ผู้คนจำนวนมากเดินทางไปยังชายหาด ประกอบกับสภาพคลื่นทะเลที่อันตรายและรุนแรงเป็นพิเศษในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย

ด้านนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย นายแอนโธนี อัลบาเนซี ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งได้กล่าวเตือนประชาชนทุกคนที่จะเดินทางไปชายหาดหรือทำกิจกรรมทางน้ำ ให้เพิ่มความระมัดระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ โดยเน้นย้ำว่า “ทุกคนโปรดระมัดระวัง โดยเฉพาะครอบครัวต่างๆ โปรดดูแลบุตรหลานของคุณอย่างใกล้ชิด”

รายงานจาก Royal Life Saving Australia ซึ่งเป็นองค์กรด้านความปลอดภัยทางน้ำ ระบุว่า ในช่วงปี 2024 จนถึงเดือนมิถุนายน มีประชาชนจมน้ำเสียชีวิตแล้วกว่า 323 รายทั่วประเทศ ซึ่งตัวเลขนี้รวมถึงผู้เสียชีวิตในแม่น้ำ ลำธาร และชายหาด โดยเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดเกิดขึ้นในรัฐนิวเซาท์เวลส์