กรุงเทพมหานคร – เกิดเหตุการณ์อุกอาจบริเวณทางเดินเท้าหน้าโรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธนบุรี เมื่อกลุ่มวัยรุ่นชายได้ก่อเหตุพยายามจี้ชิงทรัพย์นักเรียนชายชั้นประถมที่กำลังเดินทางกลับบ้าน แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากเหยื่อขัดขืน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย สามารถระบุตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 ราย และกำลังเร่งขยายผลติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บริเวณทางเดินเท้าด้านหน้าโรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร พันตำรวจโท อัสนีชัย เร่งเทียน สารวัตร (สอบสวน) สน.บางกอกน้อย ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกันหลายคน ได้พยายามใช้มีดจี้ชิงกระเป๋านักเรียนจากเด็กนักเรียนที่เพิ่งเลิกเรียน

หลังรับแจ้ง พลตำรวจเอก สมสิทธิ์ สันทัสนะโชค ผู้กำกับการ สน.บางกอกน้อย ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของสถานีตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน

จากการสอบสวนเด็กชายเอ (นามสมมติ) และเด็กชายบี (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นเหยื่อในเหตุการณ์ ให้การว่า หลังจากเลิกเรียนแล้วกำลังเดินกลับบ้านพักในย่านซอยจรัญสนิทวงศ์ ขณะเดินอยู่บริเวณทางเดินเท้าหน้าโรงเรียน ได้มีกลุ่มชายวัยรุ่นจำนวน 5 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาจำนวน 2 คัน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ กลุ่มวัยรุ่นได้จอดรถ จากนั้นได้ลงมาข่มขู่และพยายามจะชิงกระเป๋านักเรียนของพวกตน โดยหนึ่งในผู้ก่อเหตุได้ชักมีดออกมาใช้จี้ข่มขู่

อย่างไรก็ตาม เด็กชายทั้งสองคนไม่ยอมให้กระเป๋านักเรียนไป และพยายามขัดขืน ทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่สามารถชิงทรัพย์ไปได้สำเร็จ ด้วยความตกใจและกลัวจะถูกจับ กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 5 คนจึงรีบพากันขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สน.บางกอกน้อย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง และสอบถามพยานแวดล้อม จนสามารถสืบทราบข้อมูลของผู้ก่อเหตุได้แล้วจำนวน 1 ราย ทราบชื่อคือ เด็กชายซี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านเยาวราช

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการประสานงานกับทางอาจารย์ผู้รับผิดชอบของโรงเรียนที่เด็กชายซีศึกษาอยู่ เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน และเพื่อขยายผลติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือทั้ง 4 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลให้กับผู้ปกครองในพื้นที่ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฝากเตือนให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในระหว่างการเดินทางไปและกลับจากโรงเรียน