อรรถกร ลั่น ‘อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด สิ่งใดล้วนอนิจจัง’ หลังมีข่าว ‘ธรรมนัส’ จ่อคืน รมช.เกษตรฯ ยันพรรคไม่ดูด ส.ส.
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2068 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.ฉะเชิงเทรา ในฐานะนายทะเบียนพรรคกล้าธรรม และอดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองและความเคลื่อนไหวภายในพรรค หลังพรรคกล้าธรรมประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 8 ที่ทำให้นายก้องเกียรติ เกตุสมบัติ ผู้สมัครของพรรคได้รับชัยชนะ
นายอรรถกร กล่าวถึงชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมว่า พรรคไม่ได้มองว่าเป็นการแข่งขันเพื่อเพิ่มโควต้ารัฐมนตรี แต่เน้นการส่งบุคคลที่มีอุดมการณ์และตั้งใจทำงานเพื่อพื้นที่เข้าไปเป็นตัวแทนประชาชน โดยระบุว่า “เราแค่ส่งคนที่คิดว่ามีอุดมการณ์เดียวกันและตั้งใจทำงานเพื่อพื้นที่ เราคิดอยู่แค่นั้น ดังนั้นเรายินดีถ้าจะมีคนที่ตั้งใจ มีศักยภาพ มาเป็นตัวแทนของประชาชน”
เมื่อถูกถามถึงโอกาสที่จำนวน ส.ส.ของพรรคจะเพิ่มขึ้นมากในอนาคต ตามที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคเคยกล่าวไว้ ซึ่งอาจนำไปสู่การได้โควตารัฐมนตรีเพิ่มขึ้น นายอรรถกร ยืนยันว่าพรรคไม่ได้มีพฤติกรรม “ดูด ส.ส.” แต่เป็นเพราะนักการเมืองหลายคนเห็นสไตล์การทำงานของแกนนำพรรค โดยเฉพาะ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งทำงานอย่างตรงไปตรงมา และนี่คือจุดดึงดูดให้คนอยากมาร่วมงาน
ประเด็นสำคัญที่ถูกถามถึงคือกระแสข่าวที่ว่า ร.อ.ธรรมนัส อาจจะกลับมาดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ อีกครั้ง หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยอาจเข้ามารับไม้ต่อจากนายอิทธิ ศิริลัทธยากร
นายอรรถกร ชี้แจงในประเด็นนี้ว่า การปรับ ครม. เป็นอำนาจโดยตรงของนายกรัฐมนตรี ส่วนกระบวนการภายในพรรคกล้าธรรมเองก็มีขั้นตอนการคัดสรรบุคคลเพื่อเสนอชื่อ พร้อมเชื่อว่ารัฐบาลต้องการบุคคลที่มีประสบการณ์ในการบริหารงานในกระทรวงต่างๆ หรือมีประสบการณ์ทางการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบันที่คลี่คลายลง
สำหรับการคาดการณ์เรื่องการปรับ ครม. ในกระทรวงเกษตรฯ นายอรรถกร แสดงทัศนะส่วนตัวว่า ไม่มีปัญหาใดๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ หรือ รมช.ทั้งสองคน ก็ทำงานกันอย่างเต็มความสามารถ
ก่อนจะทิ้งท้ายด้วยวลีที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยนายอรรถกร กล่าวอย่างนิ่งๆ ว่า “ส่วนเรื่องที่ว่าจะปรับอย่างไรต้องแล้วแต่ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด สิ่งใดล้วนอนิจจัง” สะท้อนถึงมุมมองที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ทางการเมือง