นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ตนได้เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนนัดพิเศษผ่านระบบทางไกลกับประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ และติมอร์-เลสเต เพื่อหารือแนวทางรับมือมาตรการภาษีตอบโต้ใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 5 เมษายนที่ผ่านมา

ที่ประชุมมีมติออกถ้อยแถลงร่วมแสดงจุดยืนอาเซียนในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับสหรัฐฯ พร้อมเสนอเจรจาเชิงสร้างสรรค์ภายใต้กรอบ ASEAN-US Strategic Trade and Investment Partnership (STIP) เพื่อลดความขัดแย้งทางการค้าและหาทางออกที่สมดุล

อาเซียนเน้นย้ำความสำคัญของระบบการค้าพหุภาคี และจะไม่ตอบโต้ทางการค้า แต่จะเดินหน้าสร้างความร่วมมือในสาขาศักยภาพสูงกับสหรัฐฯ เช่น ดิจิทัล AI อาหาร พลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมขั้นสูง และรถยนต์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติตั้งคณะทำงานพิเศษ “ASEAN Geoeconomics Task Force” เพื่อติดตามและประเมินนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเสนอแนะแนวทางรับมือที่เหมาะสมสำหรับอาเซียน

นายพิชัยเปิดเผยว่า ได้ติดต่อกับนายจามิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 และขณะนี้อยู่ระหว่างนัดหมายวันประชุมเพื่อหารือแนวทางความร่วมมือไทย-สหรัฐฯ ตามนโยบายของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของอาเซียน โดยในปี 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 476,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนไทยนั้น สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ด้วยมูลค่าการค้ารวม 74,484 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีเดียวกัน