ไม้เทียม: ทางเลือกวัสดุตกแต่งบ้านยุคใหม่ สวย ทน ดูแลง่าย ครบจบในหนึ่งเดียว
ในยุคที่การตกแต่งบ้านให้สวยงามคือส่วนสำคัญที่ทำให้บ้านของคุณน่าอยู่และมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้าน วัสดุที่ใช้ตกแต่งจึงต้องตอบโจทย์ทั้งในเรื่องของความทนทาน การดูแลรักษา และความเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานด้วย ไม้เทียม ได้กลายมาเป็นตัวเลือกที่มาแรงไม่แพ้วัสดุตกแต่งอื่นๆ เช่น กระเบื้อง คอนกรีตเปลือย ลามิเนต หรือแม้แต่วัสดุธรรมชาติเช่น ไม้จริง
บทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจน จากมุมมองของดีไซเนอร์และผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุตกแต่ง เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจเลือกวัสดุ ให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน ความชอบส่วนตัว และงบประมาณที่มีได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
ไม้เทียมคืออะไร?
ไม้สังเคราะห์หรือที่เรียกกันว่า “ไม้เทียม” คือวัสดุตกแต่งที่ถูกสังเคราะห์และออกแบบมาเพื่อทดแทนไม้จริง โดยมีจุดเด่นอยู่ที่สามารถใช้งานได้ภายในและภายนอก เพราะทนแดด ฝน ความชื้น และปลวกแมลง ไม่บิดงอหรือผุพังง่าย ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเภท เช่น ไม้เทียมไฟเบอร์ซีเมนต์, WPC (Wood Plastic Composite), และ uPVC
จุดเด่นของไม้เทียมยุคใหม่
มีลวดลายและพื้นผิวที่สมจริงมากขึ้น
เทคโนโลยีการผลิตในปัจจุบัน สามารถเลียนแบบลายไม้ธรรมชาติ หิน หรือแม้แต่ลายซีเมนต์ได้อย่างใกล้เคียง
มีหลายเฉดสี และหลายขนาด
ดีไซเนอร์สามารถนำไปตกแต่งบ้านได้หลากหลายสไตล์ ทั้งบ้านสไตล์โมเดิร์น มินิมอล ไปจนถึงทรอปิคอลหรือรีสอร์ท
มีความทนทานแข็งแรงมากขึ้น
เทคโนโลยีการผลิตปัจจุบันทำให้ไม้เทียมมีความแข็งแรงทนทานกว่าเดิม ไม่แตกร้าว ไม่บวม ไม่ลอก แม้เจอแดดเจอฝน
ดูแลรักษาง่าย
เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดเพื่อทำความสะอาด แทบไม่ต้องทาน้ำยาเคลือบหรือกันปลวก
วัสดุตกแต่งกับสัมผัสของวัสดุมีผลต่อประสบการณ์ใช้งานอย่างไร?
สัมผัสในการใช้งานเป็นจุดสำคัญที่มักถูกมองข้าม ไม้เทียมยุคใหม่มีการออกแบบพื้นผิวให้มีความด้านหรือมีร่องเหมือนกับไม้จริง คือไม่เรียบลื่นเหมือนกับกระเบื้องหรือหิน จึงให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในบ้านที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก วัสดุที่มีพื้นผิวไม่เรียบลื่นช่วยลดอุบัติเหตุได้
นอกจากนี้ พื้นไม้เทียมก็ยังให้ผิวสัมผัส “นุ่ม” กว่าหินหรือพื้นกระเบื้อง เมื่อนำมาตกแต่งภายในโดยเฉพาะพื้น จะให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและสบายมากกว่าเมื่อสัมผัส, เดิน หรือ ยืน
เปรียบเทียบไม้เทียมกับวัสดุตกแต่งยอดนิยมอื่นๆ
ไม้เทียม VS ไม้จริง
ความสวยงาม
ลายของไม้จริงคือลายธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ไม้เทียมในปัจจุบันก็มีความใกล้เคียงกับไม้จริงมาก และมีให้เลือกใช้งานครบทุกฟังก์ชันการตกแต่ง อาทิ พื้นไม้เทียม, ฝ้าไม้เทียม หรือ ระแนงไม้เทียม เป็นต้น
ความทนทาน
ไม้จริงอาจบวมหรือผุเมื่อสัมผัสน้ำ ต้องคอยบำรุงรักษา แต่ไม้เทียมสามารถทนต่อแดด ฝน และปลวกได้
ราคา
ไม้จริงมีราคาที่สูงกว่าไม้เทียมอยู่แล้ว โดยเฉพาะไม้สักและไม้เต็ง
ความสะดวกในการติดตั้ง
ไม้จริงจำเป็นต้องใช้ช่างฝีมือเฉพาะ ในขณะที่ไม้เทียมติดตั้งง่าย สะดวก โดยเฉพาะไม้เทียมที่มีเทคโนโลยีพิเศษในการติดตั้ง เจ้าของบ้านสามารถติดตั้งด้วยตัวเองได้
การดูแลรักษา
ไม้จริงต้องลงน้ำยากันปลวกและเคลือบเงาก่อนเพื่อความง่ายในการดูแลรักษา ในขณะที่ไม้เทียมเช็ดล้างง่าย ไม่ต้องเคลือบ
ไม้เทียม VS กระเบื้องลายไม้
ลวดลาย
ทั้งไม้เทียมและกระเบื้องลายไม้ มีลวดลายที่คล้ายไม้จริงมากขึ้นในปัจจุบัน
พื้นผิว
ไม้เทียมมีผิวสัมผัสแบบไม้จริง แต่กระเบื้องลายไม้จะมีผิวหน้าที่ลื่นกว่าทั้งไม้จริงและไม้เทียม
ราคา
ไม้เทียมส่วนมากมีราคามากกว่าพื้นกระเบื้อง ยกเว้นพื้นกระเบื้องเกรดพรีเมียม
ความสะดวกในการติดตั้ง
กระเบื้องลายไม้ใช้ปูบนพื้นเรียบ ซีเมนต์ หรือปูนเท ในขณะที่ไม้เทียมสามารถติดตั้งไว้บนพื้นไม้เทียมหรือติดตั้งกับโครงคร่าวได้
การดูแลรักษา
ไม้เทียมสามารถถอดเปลี่ยนแผ่นเมื่อมีปัญหาได้ แต่กระเบื้องลายไม้ไม่สามารถซ่อมเฉพาะจุดได้ และอาจจะต้องรื้อพื้นกระเบื้องที่อยู่โดยรอบ
ไม้เทียม VS ลามิเนต
ความทนทาน
ไม้เทียมสามารถติดตั้งภายนอกได้ เพราะไม้เทียมรุ่นที่ใช้ติดตั้งภายนอกทนแดดทนฝนได้ แต่ลามิเนตใช้ตกแต่งเฉพาะพื้นที่ภายในเท่านั้น เพราะลามิเนตไม่ทนต่อน้ำ
ลักษณะพื้นผิว
ไม้เทียมมีผิวสัมผัสที่เหมือนไม้จริงมากกว่าเพราะมีผิวด้าน ในขณะที่พื้นลามิเนตมีผิวเรียบและมันเงา
ราคา
ราคาไม้เทียมจะสูงกว่าลามิเนตเล็กน้อย
การดูแล
ลามิเนตไม่ทนต่อน้ำ จึงไม่เหมาะกับการปูในพื้นที่ที่มีโอกาสเปียกชื้นสูงอย่างบริเวณห้องน้ำหรือระเบียง ในขณะที่ไม้เทียมที่ใช้ภายในก็สามารถทนชื้นได้
ไม้เทียม VS หินเทียม/คอนกรีตเปลือย
สไตล์
วัสดุทั้งสองแบบ เมื่อนำมาใช้ตกแต่งก็สร้างบรรยากาศที่แตกต่างกัน ไม้เทียมจะให้ความรู้สึกที่อบอุ่น เป็นธรรมชาติ ส่วนหินเทียมหรือคอนกรีตให้ความรู้สึกที่ดูดิบ เท่
น้ำหนัก
ไม้เทียมมีน้ำหนักที่เบากว่าอย่างชัดเจน
ความสะดวกในการติดตั้ง
ไม้เทียมติดตั้งง่ายกว่า ส่วนหินเทียมต้องมีพื้นที่รองรับที่แข็งแรง และในส่วนของคอนกรีตก็ต้องมีการเสริมโครงสร้างรองรับ
การใช้งาน
ไม้เทียมในปัจจุบันสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก ใช้เป็นพื้น ผนัง ไม้ระแนง ฝ้า และเฟอร์นิเจอร์ได้ ในขณะที่หินเทียมจะเหมาะกับพื้นหรือผนังเท่านั้น
เคล็ดลับการดูแลไม้เทียมให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
-
ทำความสะอาดสม่ำเสมอ
ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดฝุ่นหรือใช้น้ำเปล่าชะล้างสิ่งสกปรกออกเป็นประจำ เพื่อป้องการสะสมของคราบสกปรกฝังแน่น
-
หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรง
ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เพราะอาจทำให้ผิวไม้หมองหรือเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
-
หากใช้ภายนอก ควรเลือกเกรดที่เหมาะกับ Outdoor
เพื่อความทนทานต่อรังสี UV และฝนตก
-
ตรวจสอบรอยต่อและโครงสร้างเป็นระยะ
โดยเฉพาะหากใช้ร่วมกับโครงไม้หรือเหล็ก เพื่อให้มั่นใจว่ามีจุดอ่อนหรือชำรุด
ข้อแนะนำจากดีไซเนอร์: เลือกวัสดุอย่างไรให้เหมาะกับบ้านคุณ?
-
ดูความเหมาะสมกับพื้นที่ที่จะใช้งาน
หากใช้กับพื้นที่ภายนอก ก็ต้องเลือกวัสดุที่ทนแดดและฝนได้ เช่น ไม้เทียม ไม้จริง หรือ WPC
-
พิจารณาความถี่ในการดูแล
หากไม่อยากดูแลบ่อยๆ ไม้เทียมคือคำตอบ เพราะทนทานและไม่ต้องลงน้ำยา
-
ความปลอดภัยและผิวสัมผัส
บ้านที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ควรเลือกพื้นไม้เทียมหรือลามิเนตแบบผิวด้าน เพื่อป้องกันลื่น
-
สไตล์บ้านและงบประมาณ
วัสดุที่แตกต่างกันย่อมให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ถ้าชอบลุคธรรมชาติ สไตล์รีสอร์ท ไม้เทียมลายไม้คือตัวเลือกที่คุ้มค่าและสวยงาม
ไม้เทียมหนึ่งในวัสดุตกแต่งที่มาแรงแห่งยุค?
การใช้ไม้เทียมตกแต่งบ้านไม่ใช่เรื่องน่าแปลกแล้วในปัจจุบัน และยังกลายเป็นวัสดุหลักสำหรับการตกแต่งที่ต้องการความสวยงามควบคู่กับความทนทาน แถมเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ทำให้ไม้เทียมมีลวดลายสวยงามไม่ต่างจากวัสดุจริง ทั้งแข็งแรง ดูแลรักษาง่าย ทนแดด ทนฝน ไม่ผุ ไม่พัง และใช้งานได้นานนับสิบปี
หากคุณกำลังตัดสินใจเลือกวัสดุตกแต่งที่ทั้งสวย ใช้งานได้จริง และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ไม้เทียมคือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยจริงๆ ซึ่งคุณสามารถเลือกดูผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของไม้เทียมและคุณสมบัติของไม้เทียมเพิ่มเติมได้ที่ Remood