รวบยาย 70 หนี 10 ปี คดีฆ่าน้องชาย ปมมรดกที่ดิน ที่ระยอง อ้างป้องกันตัว

กองปราบฯ ตามรวบยายวัย 70 ปี ที่ จ.ระยอง หลังหนีคดีฆ่าน้องชายแท้ๆ จนเสียชีวิต เหตุขัดแย้งเรื่องมรดกที่ดิน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2555 และหลบหนีนานกว่า 10 ปี ผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุจริง แต่อ้างว่าเป็นการป้องกันตัวขณะถูกน้องชายทำร้าย

วันที่ 28 เมษายน 2568 พล.ต.ต.ธีรชาติ ธีรชาติธำรง ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามพิเศษ (ผบก.ปพ.) ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศิววงศ์ ดำรงสัจจ์ศิริ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามพิเศษ (ผกก.3 บก.ปพ.) และ พ.ต.ต.ชนภัช ศิริพงษ์ สารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามพิเศษ (สว.กก.3 บก.ปพ.) นำกำลังเข้าจับกุม นางทวาย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยเป็นการจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ 220/2558 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2558 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปี 2555 ได้เกิดเหตุสะเทือนใจในครอบครัวขึ้นที่บ้านพัก ในพื้นที่ ต.วังไทร อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร โดย นางทวาย ได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่ลำคอของ นายเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของตนเอง จนเป็นเหตุให้นายเอเสียชีวิตคาที่

มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้มาจากปัญหาความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินมรดกที่ดิน ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความบาดหมางและมีการทะเลาะวิวาทกันระหว่าง นางทวาย และน้องชายอยู่เป็นประจำ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น

ภายหลังก่อเหตุ นางทวาย ได้อาศัยช่วงเวลาที่ชุลมุนรีบหลบหนีออกจากพื้นที่เกิดเหตุไปทันที ทำให้สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ปพ. ได้ทำการสืบสวนติดตาม จนกระทั่งได้รับข้อมูลว่าปัจจุบัน นางทวาย ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.ระยอง จึงได้นำกำลังเข้าติดตามและสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวนเบื้องต้น นางทวาย ได้ให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธมีดฟันคอน้องชายแท้ๆ จนถึงแก่ความตายจริง และยอมรับว่ามีปัญหาขัดแย้งกับผู้ตายเรื่องทรัพย์สินมรดกที่ดินจริง

อย่างไรก็ตาม นางทวาย ได้ให้การปฏิเสธในเจตนาฆ่า โดยอ้างว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการป้องกันตัว เนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ในขณะที่ตนและสามีกำลังรับประทานอาหารอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน ผู้ตายซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาสุรา ได้เดินขึ้นมาหาตน พร้อมกับมีอาวุธมีดปลายแหลมเหน็บอยู่ที่เอว

นางทวาย ให้การเพิ่มเติมว่า เมื่อตนและสามีเห็นท่าทีของผู้ตายไม่ดี จึงรีบวิ่งเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้อง แต่ผู้ตายยังคงไม่หยุดพยายาม และได้พังประตูห้องบุกเข้ามาภายในห้อง จากนั้นผู้ตายได้ตรงเข้ามาใช้มือบีบคอของตน ด้วยความตกใจและเพื่อป้องกันตัว ตนจึงได้คว้าเอาอาวุธมีดที่เหน็บอยู่ที่เอวของผู้ตาย ฟันสวนออกไปโดนเข้าที่บริเวณลำคอของน้องชาย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

ผู้ต้องหายืนยันว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็เสียใจที่ต้องมาเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นภายในครอบครัว หลังจากการสอบสวนและบันทึกข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นางทวาย ส่งมอบให้ศาลจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *