สุราษฎร์ธานี – ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งไล่ล่าตัว น.ส.แก้วตา ชูขาว หลังศาลอนุมัติหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชน หลอกลวงผู้เสียหายกว่า 50 ราย ด้วยการขายตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษ แต่ไม่สามารถใช้ได้จริง มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 3.6 ล้านบาท ผู้บังคับการฯ กำชับชุดสืบสวนระดมกำลังจับกุม พร้อมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ

พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับคดี น.ส.แก้วตา ชูขาว ที่ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงประชาชนโดยการเสนอขายตั๋วเครื่องบินทั้งในประเทศและต่างประเทศในราคาที่ถูกกว่าปกติ ทำให้มีผู้หลงเชื่อและโอนเงินให้เป็นจำนวนมาก

เมื่อถึงเวลาที่จะต้องใช้ตั๋วเครื่องบินดังกล่าว ปรากฏว่าไม่สามารถใช้งานได้จริง ทำให้กลุ่มผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ซึ่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ่อผุดและสถานีตำรวจอื่นๆ ที่รับแจ้งความ ได้เร่งสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีผู้เสียหายในคดีนี้แล้วกว่า 50 ราย และคาดว่ามูลค่าความเสียหายรวมทั้งหมดประมาณ 3,672,890 บาท ซึ่งเป็นคดีที่มีผู้เสียหายจำนวนมากและสร้างความเสียหายทางทรัพย์สินเป็นเงินจำนวนสูง

พล.ต.ต.เสริมพันธ์ กล่าวว่า คดีนี้ได้รับความสนใจและถูกสั่งกำชับเป็นพิเศษจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ให้เร่งรัดการสืบสวนสอบสวนและจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีอัตราโทษสูง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.ศิรชัช กามูณี พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ยื่นต่อศาลจังหวัดเกาะสมุยเพื่อขออนุมัติหมายจับ น.ส.แก้วตา ชูขาว ซึ่งศาลฯ ได้พิจารณาอนุมัติหมายจับเลขที่ 134/2568 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 แล้ว

หลังจากได้รับหมายจับ พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ได้นำข้อมูลหมายจับดังกล่าวเข้าระบบฐานข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกระจายไปยังสถานีตำรวจและสถานีตำรวจนครบาลทั่วประเทศ รวมถึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นการหลบหนี

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังได้สั่งการเน้นย้ำให้ชุดสืบสวนของ สภ.บ่อผุด และกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระดมกำลังชุดสืบสวนออกติดตามไล่ล่าจับกุมตัว น.ส.แก้วตา ชูขาว มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลเพื่อหาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงประชาชนในครั้งนี้เพิ่มเติม หากพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงบุคคลใด ก็ให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดทุกคนตามกฎหมายต่อไป

“อยากฝากถึงผู้ต้องหาคือ น.ส.แก้วตา ชูขาว ว่าขณะนี้มีหมายจับแล้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวอย่างเต็มที่ อย่างไรเสียก็หนีไม่รอดแน่นอน ขอให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็ว เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง กล่าวทิ้งท้าย