ช็อก! จับหนุ่มปากีสถาน สวมรอยคนตายกว่า 10 ปี ใช้พาสปอร์ตปลอมเข้าออกไทยนับร้อยครั้ง

ช็อก! จับหนุ่มปากีสถาน สวมรอยคนตายกว่า 10 ปี ใช้พาสปอร์ตปลอมเข้าออกไทยนับร้อยครั้ง

กรุงเทพฯ – ความคืบหน้ากรณีการปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารและสวมรอยบุคคล ล่าสุด วันที่ 24 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายเซชาน อายุ 41 ปี สัญชาติปากีสถาน ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2463/2568 ลงวันที่ 22 เมษายน 2568 ในข้อหาหนักหลายกระทงเกี่ยวกับการใช้เอกสารราชการปลอมและการแจ้งความเท็จ

ปฏิบัติการจับกุมในครั้งนี้ นำโดย พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. และ พ.ต.ท.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป. โดยสามารถติดตามจับกุมตัวนายเซชาน ได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในย่านทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับข้อมูลว่า นายเซชาน ซึ่งเป็นชาวปากีสถาน ได้กระทำการปลอมแปลงเอกสารสำคัญ โดยการสวมรอยใช้บัตรประจำตัวประชาชนของคนไทยรายหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ครอบครัวยังไม่ได้ดำเนินการแจ้งการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ ซึ่งช่องโหว่ดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการแอบอ้างตัวเป็นคนไทย

จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า นายเซชาน ได้ใช้หลักฐานเท็จดังกล่าวในการดำเนินชีวิตประจำวัน เสมือนเป็นพลเมืองไทยมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 10 ปี โดยใช้สิทธิและสวัสดิการต่างๆ ที่พึงมีสำหรับคนไทย นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ นายเซชาน ได้นำบัตรประชาชนปลอมไปใช้เป็นหลักฐานในการยื่นขอและทำหนังสือเดินทางไทย และใช้หนังสือเดินทางปลอมนี้เดินทางเข้าออกประเทศไทยไปแล้วมากกว่า 100 ครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีการใช้เอกสารปลอมในการกระทำความผิดอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ

หลังจากการตรวจสอบพยานหลักฐานและข้อมูลต่างๆ จนมีความแน่ชัด เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ จึงได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับนายเซชาน และได้นำกำลังเข้าติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

ในชั้นการสอบสวน เบื้องต้น นายเซชาน ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อ และได้นำตัวนายเซชาน ส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ใช้หรือแสดงบัตรประจำตัวประชาชนที่ยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชนโดยมิได้มีสัญชาติไทยด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ, เป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติทําใช้ หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จเพื่อให้ตนเองมีชื่อในทะเบียนราษฎรโดยมิชอบ, แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, ปลอมและใช้เอกสารปลอม, ปลอมและใช้หนังสือเดินทางฯ”

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ จะเร่งดำเนินการขยายผลการสอบสวนเพื่อติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการในการปลอมแปลงเอกสารราชการ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในครั้งนี้ทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *