ตำรวจทลายแก๊งลัก จยย. ชำแหละขาย! เจ้าของช้ำใจ รถเพิ่งซื้อ 4 เดือน เหลือแต่โครง ยังต้องผ่อนต่อ

สมุทรปราการ – วันที่ 19 เมษายน 2568 ที่สถานีตำรวจภูธรบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็รชพลอย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางพลี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รองผู้กำกับการสืบสวน และ พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น สารวัตรสืบสวน ได้ร่วมกับฝ่ายสืบสวน แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์รายสำคัญ ได้แก่ นายธานินทร์ อายุ 22 ปี และเยาวชนชายอายุ 16 ปี พร้อมของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมา และชิ้นส่วนอะไหล่รถจักรยานยนต์จำนวนมาก การจับกุมครั้งนี้มีผู้เสียหายหลายรายเดินทางมาดูของกลาง และหนึ่งในผู้เสียหายได้มายืนมองโครงรถจักรยานยนต์ของตนเองด้วยความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายธานินทร์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง โดยมีพฤติการณ์เลือกรถเป้าหมายที่เจ้าของไม่ได้ล็อกคอรถ ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการเข็นรถออกจากพื้นที่เกิดเหตุ จากนั้นจะนำรถไปชำแหละแยกเป็นชิ้นส่วนเพื่อนำอะไหล่ออกขาย ส่วนหมายเลขตัวถังรถจะใช้เครื่องเจียร์ลบออกเพื่อทำลายหลักฐาน หลังจากชำแหละแล้ว จะนำอะไหล่ไปโพสต์ขายผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ในราคาที่ไม่สูงนัก ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับเจ้าของรถอย่างมาก

ด้านเจ้าของรถจักรยานยนต์ผู้เสียหายรายหนึ่งที่เดินทางมาดูซากรถของตัวเอง เปิดเผยด้วยความรู้สึกปวดร้าวใจว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเพิ่งจะซื้อมาได้เพียงประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น และยังคงต้องผ่อนชำระค่างวดอยู่เดือนละกว่า 4 พันบาท ซึ่งเป็นภาระที่หนักมากในขณะนี้ ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของตนเองที่ไม่ได้ล็อกคอรถจักรยานยนต์ในคืนเกิดเหตุ เนื่องจากวันนั้นกลับจากทำงานแล้วฝนตกหนัก จึงรีบจอดรถแล้วเข้าห้องพักทันที กระทั่งตื่นนอนขึ้นมาในเวลาประมาณ 04.00 น. ก็พบว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไปแล้ว เมื่อทราบข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ จึงรีบเดินทางมาดูหน้าคนร้ายและสภาพรถของตนเอง แต่ก็ต้องทำใจเมื่อเห็นสภาพรถที่ถูกชำแหละจนเหลือเพียงแค่เปลือกและโครงรถเท่านั้น ซึ่งสร้างความเดือดร้อนและเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะต้องรับภาระผ่อนกุญแจรถต่อไปอีกหลายเดือนหรือเป็นปี ทั้งที่ไม่มีรถให้ใช้งาน

พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็รชพลอย ผู้กำกับการ สภ.บางพลี กล่าวว่า การกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ถือเป็นนโยบายหลักที่สำคัญของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคดีประเภทนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้เสียหายเป็นอย่างมาก สำหรับคดีนี้ ฝ่ายสืบสวนได้รับเบาะแสของกลุ่มคนร้าย จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นและสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองรายได้ในที่สุด

พ.ต.อ.ไพโรจน์ ยังได้กล่าวเตือนภัยประชาชนถึงพฤติการณ์ของคนร้าย ที่มักจะเลือกรถจักรยานยนต์รุ่นที่กำลังเป็นที่นิยม และเลือกรถที่เจ้าของไม่ได้ล็อกคอรถ เพราะง่ายต่อการโจรกรรม จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังและป้องกันเหตุ ด้วยการล็อกคอรถจักรยานยนต์ทุกครั้งที่จอด และหากเป็นไปได้ ควรใช้การล็อกดิสเบรก หรืออุปกรณ์ป้องกันการโจรกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้คนร้ายลงมือได้ยากขึ้น สำหรับคดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการขยายผลต่อไปยังกลุ่มบุคคลที่รับซื้ออะไหล่หรือรถที่ถูกโจรกรรมมา เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหารับของโจรต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ จะถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการหลบหนี หรือรับของโจร แล้วแต่กรณีของพฤติการณ์ที่ร่วมกระทำความผิด