รวบแล้ว! หนุ่ม 23 บุกกระทืบพระคากุฏิสาหัส ปมทวงเงินค่ายาเสพติดไม่ได้ของ
นนทบุรี – ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับการอนุมัติหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าควบคุมตัว นายภารเดช อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาคดีบุกทำร้าย พระพรหมพงศ์ พระลูกวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ถึงกุฏิ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยถึงสาเหตุที่แท้จริง
ความคืบหน้ากรณีเหตุอุกอาจ คนร้าย 2 คน บุกเข้าไปในกุฏิของ พระพรหมพงศ์ พระลูกวัดแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อคืนวันที่ 19 เมษายน เวลาประมาณ 23.00 น. ก่อนจะใช้ปืนข่มขู่และลงมือทำร้ายร่างกายพระพรหมพงศ์ภายในกุฏิ จากนั้นได้บังคับให้ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวขับพาตัวออกจากวัดไป ก่อนจะร่วมกันรุมทำร้ายพระพรหมพงศ์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และนำไปทิ้งไว้บริเวณริมถนนย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทำให้พระพรหมพงศ์ต้องได้รับความช่วยเหลือและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ 574/2568 เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ โดยสามารถติดตามจับกุมตัว นายภารเดช อายุ 23 ปี ผู้ที่ลงมือทำร้ายพระพรหมพงศ์ได้แล้ว ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีกรายคือ นายรัชชานนท์ อายุ 25 ปี ซึ่งทำหน้าที่ขับรถพาผู้เสียหายออกไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังผู้ปกครองของ นายรัชชานนท์ เพื่อให้พาเข้ามอบตัวก่อนที่จะถูกออกหมายจับอย่างเป็นทางการ
ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายภารเดช มาสอบสวนเบื้องต้น โดยผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุที่โหดเหี้ยมในครั้งนี้ แต่นายภารเดชยังคงปิดปากเงียบ ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ ต่อสื่อมวลชน
อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำเบื้องต้นโดยละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทราบว่า ปมปัญหาของการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ มาจากเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยผู้ต้องหาอ้างว่า ได้ฝากเงินจำนวน 14,000 บาท ให้กับพระพรหมพงศ์ เพื่อให้ไปดำเนินการซื้อยาเสพติด (ยาบ้า) แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาแล้วกลับไม่ได้รับยาเสพติดตามที่ตกลงกันไว้ จึงได้เดินทางมาทวงถามเงินจำนวนดังกล่าวคืน
เมื่อมาถึงกุฏิ พระพรหมพงศ์ไม่สามารถหาเงินจำนวน 14,000 บาท มาคืนได้ทันที และได้พยายามขอเงินจากโยมแม่ แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้ผู้ก่อเหตุเกิดความไม่พอใจอย่างมาก และได้ลงมือทำร้ายร่างกายพระพรหมพงศ์ภายในกุฏิ จากนั้นจึงบังคับพาตัวขึ้นรถออกไปเพื่อเค้นเอาเงินคืน เมื่อยังคงไม่ได้เงินตามที่ต้องการ จึงได้ร่วมกันรุมซ้อมทำร้ายจนพระพรหมพงศ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะนำตัวไปทิ้งไว้ข้างทางแล้วหลบหนีไป
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลการสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้ครบถ้วน และเร่งติดตามตัว นายรัชชานนท์ ผู้ร่วมก่อเหตุอีกรายที่ยังคงหลบหนีอยู่ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป