กรุงเทพฯ – ตำรวจกองปราบปรามสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหารายสุดท้ายในคดีสมาคมเถื่อนหลอกลวงชาวไทยมุสลิมว่าจะพาไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยเรียกเก็บเงินค่าสมาชิกเพียงหลักพันบาท แต่ไม่สามารถดำเนินการได้จริง ผู้ต้องหารายนี้เป็นกรรมการสมาคมดังกล่าว แม้จะให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจยืนยันมีการดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ประกอบด้วย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.อนุสรณ์ ทองไสย รรท.ผกก.6 บก.ป. และ พ.ต.ต.จอมพฤทธิ์ แก้วเรือง สว.กก.6 บก.ป. ร่วมกันปฏิบัติการติดตามจับกุม นายอับดุล รอหม่าน อายุ 48 ปี

การจับกุมครั้งนี้อ้างอิงตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 587/2566 ซึ่งออกเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 ในข้อหา “ร่วมกันโฆษณาหรือกระทำการอื่นใดอันมีลักษณะเป็นการชักชวนเพื่อให้ใช้หรือการรับบริการขนส่งอันเป็นการแสวงหาประโยชน์ในทางธุรกิจสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนายอับดุล รอหม่าน ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

คดีนี้มีต้นกำเนิดมาจากสมาคมแห่งหนึ่งที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ได้ดำเนินการชักชวนประชาชนชาวไทยมุสลิมในหลายจังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ ปทุมธานี นราธิวาส และปัตตานี ให้เข้าร่วมโครงการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ โดยอ้างว่าเป็นการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสมาคม และมีการจัดประชุมเผยแพร่ข้อมูลในพื้นที่ต่างๆ

สิ่งที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อคือการเรียกเก็บเงินจากผู้สนใจเดินทางเพียงรายละ 1,700 บาท ซึ่งระบุว่าเป็นค่าสมัครสมาชิกและค่าบำรุงสมาคม พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก โดยสมาคมจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งหมด ทำให้ข้อเสนอนี้ดูน่าสนใจอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายปกติในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งโดยทั่วไปมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 150,000 บาทต่อคน

อย่างไรก็ตาม กรมการปกครองได้ตรวจสอบและพบว่าสมาคมดังกล่าว มิได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลและให้ใบอนุญาตแก่ผู้ประกอบกิจการฮัจญ์ในประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจญ์ พ.ศ. 2524 แต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายการประกอบกิจการรับขนส่งเพื่อแสวงหากำไรโดยไม่ได้รับอนุญาต กรมการปกครองจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม (กก.6 บก.ป.) เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภายหลังการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. ได้ขออนุมัติหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสมาคมนี้ทั้งหมด 6 ราย ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้แล้ว 5 ราย จนกระทั่งล่าสุดสามารถจับกุมนายอับดุล รอหม่าน ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสุดท้ายที่ยังหลบหนีอยู่ได้ในที่สุด

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอับดุล รอหม่าน ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง กก.6 บก.ป. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการปิดฉากขบวนการหลอกลวงที่สร้างความเสียหายและความผิดหวังให้กับพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่ตั้งใจจะไปประกอบศาสนกิจสำคัญ ณ นครมักกะฮ์