รวบแล้ว! เจ้าของคลินิกเถื่อน ฉีดยาเข็มเดียวคนไข้ดับ หนีคดี 8 ปี รับสารภาพไม่ใช่หมอ
สมุทรปราการ/อุดรธานี – เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตามรวบเจ้าของคลินิกเถื่อน หลังก่อเหตุฉีดยาให้คนไข้เพียงเข็มเดียว แต่อาการกลับทรุดหนักจนเสียชีวิตเมื่อ 8 ปีก่อน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าไม่ใช่แพทย์ แต่เคยทำงานในสถานพยาบาลมาก่อน และหลบหนีการจับกุมมาตลอด
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สามารถติดตามจับกุมตัว นายวิทยา (สงวนนามสกุล) ได้ที่หน้าบ้านสวนไม่ทราบบ้านเลขที่ในพื้นที่ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหา กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ขายหรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 หญิงรายหนึ่งได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่าสามีของเธอมีอาการปวดที่ต้นแขนขวา และได้เข้ารับการรักษาที่คลินิกแห่งหนึ่งในซอยเทศบาลบางปู 1 ซึ่งต่อมาทราบว่าเป็นคลินิกของนายวิทยา
คลินิกดังกล่าวได้แจ้งว่าอาการปวดของสามีเธอเป็นเพียงอาการกล้ามเนื้ออักเสบ และได้ทำการฉีดยาให้หนึ่งเข็ม แต่ภายหลังการรักษา อาการของสามีกลับทรุดลงอย่างรวดเร็ว จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์นี้ทำให้ภรรยาผู้เสียชีวิตเกิดความสงสัยในสาเหตุของการเสียชีวิต
ภรรยาผู้เสียชีวิตจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังรับแจ้งความ เภสัชกรชำนาญการจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบคลินิกดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นยังคงเปิดทำการตามปกติ และพบนายวิทยาแสดงตัวเป็นเจ้าของคลินิก
จากการตรวจค้นภายในคลินิก เจ้าหน้าที่พบเครื่องมือแพทย์ เข็มฉีดยา ใบเวชทะเบียนคนไข้ ซึ่งมีชื่อสามีของผู้ร้องเรียนบันทึกไว้ และตัวยาที่ถูกบันทึกว่าได้รับคือ Prednisone นอกจากนี้ยังพบเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วจำนวนหนึ่ง
ในระหว่างการเข้าตรวจสอบ นายวิทยาให้การยอมรับว่าเป็นเจ้าของคลินิกจริง แต่ให้การปฏิเสธว่าตนเองไม่ใช่แพทย์ โดยอ้างว่าเคยทำงานในสถานพยาบาลมานานกว่า 10 ปี ก่อนจะลาออกมาเปิดคลินิกของตนเอง
ภรรยาของผู้เสียชีวิตได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า นายวิทยาเป็นผู้ตรวจอาการและเป็นผู้ฉีดยาให้กับสามีด้วยตนเอง ทั้งยังเป็นผู้จัดยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบและยาแก้แพ้ให้สามีไปรับประทาน
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า คลินิกแห่งนี้ แพทย์ผู้รับอนุญาตได้แจ้งยกเลิกการปฏิบัติงานไปแล้วหลายเดือน แต่นายวิทยายังคงเปิดให้บริการต่อไป อีกทั้งจากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า นายวิทยาเคยถูกแจ้งข้อหาในลักษณะเดียวกันมาแล้ว
ภายหลังจากก่อเหตุ นายวิทยาได้หลบหนีการจับกุมเรื่อยมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองกำกับการ 1 กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) ได้สืบทราบว่านายวิทยาได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี จึงได้นำกำลังเข้าติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป