ทอท. เผยยอดผู้โดยสารช่วงสงกรานต์ 2568 ทะลุ 2.6 ล้านคน พุ่ง 4.3% เทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกดีขึ้น

กรุงเทพฯ – บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 (ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2568) ซึ่งครอบคลุมท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งภายใต้การบริหารจัดการของ ทอท. ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) พบว่ามีจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ในช่วง 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ ทอท. มีผู้โดยสารใช้บริการรวมทั้งสิ้น 2,603,180 คน เพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 1,612,720 คน เพิ่มขึ้น 3.1% และผู้โดยสารภายในประเทศ 990,460 คน ซึ่งมีการเติบโตอย่างโดดเด่นถึง 6.2%

ในส่วนของเที่ยวบิน มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 16,064 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 7.6% โดยเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 8,752 เที่ยวบิน (เพิ่มขึ้น 5.4%) และเที่ยวบินภายในประเทศ 7,312 เที่ยวบิน (เพิ่มขึ้น 10.3%) ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความคึกคักของการเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในช่วงเทศกาลสำคัญ

สถิติผู้โดยสารและเที่ยวบินรายท่าอากาศยาน

เมื่อพิจารณาในแต่ละท่าอากาศยาน พบการเติบโตที่น่าสนใจ:

  • ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.): มีผู้โดยสารรวม 1,328,330 คน (+3.6%) และมีเที่ยวบินรวม 7,345 เที่ยวบิน (+6.6%)
  • ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.): มีผู้โดยสารรวม 664,470 คน (+5%) และมีเที่ยวบินรวม 4,523 เที่ยวบิน (+6.2%)
  • ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.): มีผู้โดยสารรวม 169,690 คน (+6.1%) และมีเที่ยวบินรวม 1,277 เที่ยวบิน (+12.5%)
  • ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.): มีผู้โดยสารรวม 40,340 คน (+3.5%) และมีเที่ยวบินรวม 274 เที่ยวบิน (+7%)
  • ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.): มีผู้โดยสารรวม 360,120 คน (+4.1%) และมีเที่ยวบินรวม 2,173 เที่ยวบิน (+8.2%)
  • ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.): มีผู้โดยสารรวม 67,590 คน เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 10% และมีเที่ยวบินรวม 472 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 22% แสดงถึงความนิยมในภาคใต้ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

ยกระดับบริการด้วยเทคโนโลยี

นายกีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จในการรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น มาจากการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดย ทอท. ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนการให้บริการ อาทิ:

  • เครื่องเช็กอินอัตโนมัติ (CUSS) และเครื่องโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (CUBD): ช่วยลดเวลาเช็กอินและโหลดกระเป๋าจากเฉลี่ย 20 นาที เหลือไม่ถึง 1 นาที
  • ระบบ Biometric: ลดเวลาการยืนยันตัวตนจากเฉลี่ย 3 นาที เหลือเพียง 1 นาที
  • เครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (ABC): ลดเวลารอคิวและตรวจหนังสือเดินทางจากเฉลี่ย 15 นาที เหลือไม่ถึง 2 นาที

การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ส่งผลให้สถิติการให้บริการโดยรวมดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งในกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

มุ่งมั่นพัฒนาเพื่อประสบการณ์การเดินทางที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ทอท. ยังคงมุ่งมั่นยกระดับประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสารอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ให้บริการภายในอาคารผู้โดยสารให้เป็นพื้นที่พักคอย พักผ่อน และจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทยและดนตรี เพื่อสร้างความรื่นรมย์และความประทับใจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ซึ่งกำลังเร่งพัฒนาคุณภาพการให้บริการเพื่อเป้าหมายการก้าวสู่การเป็น 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า ล่าสุดในปี 2568 ทสภ. ได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 39 ขยับขึ้นถึง 19 อันดับจากปีก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีและเป็นกำลังใจในการพัฒนาต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *