AOT โชว์ผลงานแกร่ง 6 เดือนแรก ปีงบ 68 รายได้รวม 3.6 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 1 หมื่นล้านบาท
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ AOT ประกาศผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (เดือนตุลาคม 2567 – มีนาคม 2568) โชว์รายได้รวมแข็งแกร่งกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิทะลุ 1 หมื่นล้านบาท เป็นผลมาจากการฟื้นตัวของปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เดินทางผ่านท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT อย่างต่อเนื่อง
นางสาวปวีณา จริยฐิติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ซึ่งประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) มีปริมาณการจราจรทางอากาศรวมทั้งสิ้น 414,377 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.90 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 237,511 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ 176,866 เที่ยวบิน
ขณะที่จำนวนผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 68.42 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.76 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 42.34 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 26.08 ล้านคน การเติบโตของปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารนี้ เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลบวกต่อผลประกอบการของ AOT
สำหรับผลประกอบการใน 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 AOT มีรายได้เกี่ยวกับกิจการการบินจำนวน 18,188.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.82 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีรายได้รวมทั้งสิ้น 36,235.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.98 และมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 10,397.57 ล้านบาท
นางสาวปวีณา กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ของ AOT เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้ดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และการบริการ อาทิ การดำเนินโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบิน (Incentive Scheme) และโครงการสนับสนุนการตลาด (Marketing Fund) เพื่อสนับสนุนสายการบิน และอำนวยความสะดวกในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสาร
นอกจากนี้ AOT ยังคงเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในท่าอากาศยานหลักทั้ง 6 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยมีโครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 3 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารอีก 15 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2573 โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 30 ล้านคน เป็น 50 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2576 รวมถึงโครงการพัฒนาอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต พร้อมศึกษาแนวทางการก่อสร้างท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ตแห่งที่ 2
ในด้านเทคโนโลยี AOT ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสากลมาใช้เพื่อยกระดับการบริการให้เป็น "Smart Airport – Smart Immigration" อาทิ ระบบบริหารจัดการเที่ยวบิน Airport Collaborative Decision Making (A-CDM) ระบบเช็กอินและโหลดกระเป๋าอัตโนมัติ ระบบสแกนใบหน้าขึ้นเครื่อง (Biometric) ระบบตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ (Automated Border Control: ABC) สำหรับผู้ถือ e-passport และการเปลี่ยนมาใช้ Thailand Digital Arrival Card (TDAC) แทน ตม.6 แบบกระดาษอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และลดระยะเวลาการรอคิวของผู้โดยสาร