นายกฯ มาเลเซียเยือนไทย หารือใหญ่ ‘แพทองธาร’ ควง ‘ทักษิณ’ ใช้เวทีไทยดันสันติภาพชายแดนใต้-เมียนมา

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน ได้เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และได้เข้าพบหารือทวิภาคีกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล

การหารือระหว่างสองผู้นำมุ่งเน้นประเด็นความร่วมมือทวิภาคีและประเด็นระดับภูมิภาคที่สำคัญ มีสาระหลัก 3 เรื่อง

ประเด็นแรก คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบริเวณชายแดน โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันในการเร่งรัดผลักดันโครงการนี้ให้มีความคืบหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งข้ามแดน อำนวยความสะดวกการไปมาหาสู่ของประชาชน และกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจการค้าตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย

ประเด็นที่สอง คือ สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย โดยทั้งสองฝ่ายยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะส่งเสริมสันติภาพและความสงบสุขในพื้นที่ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไทยกล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยสันติสุขอย่างต่อเนื่อง และเห็นพ้องที่จะส่งเสริมให้เกิดการพบปะและหารืออย่างใกล้ชิดระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายไทยกับกลุ่มเห็นต่าง เพื่อหาทางยุติการใช้ความรุนแรงและสร้างความเข้าใจร่วมกัน

ประเด็นที่สาม เป็นเรื่องเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้งสองผู้นำได้หารือกันถึงแนวทางในการทำงานร่วมกันภายในกรอบของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เพื่อร่วมกันหาทางออกและแนวทางปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับทุกประเทศสมาชิก

นอกเหนือจากการหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีไทยแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง คือการที่นายอันวาร์ อิบราฮิม ในฐานะประธานอาเซียน ได้เข้าพบและหารือกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาประธานอาเซียน และคณะที่ปรึกษา ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนงานของอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

หัวข้อหลักในการหารือครั้งนี้คือ กระบวนการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐสมาชิกของอาเซียน โดยประธานอาเซียนและคณะที่ปรึกษาได้หารือกันอย่างละเอียดถึงแนวทางที่จะช่วยให้สถานการณ์ความขัดแย้งและการสู้รบในเมียนมายุติลง และนำไปสู่การสร้างความปรองดองในชาติ

รายงานข่าวระบุว่า ในระหว่างการหารือกับคณะที่ปรึกษา นายอันวาร์ อิบราฮิม ยังได้ใช้วิธีวิดีโอคอลเพื่อพูดคุยกับพลเอกมิน อ่อง ไหล่ ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา และตัวแทนจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งนำโดยผู้แทนของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา (National Unity Government – NUG) หรือรัฐบาลพลัดถิ่น

การพูดคุยผ่านวิดีโอคอลนี้มีเป้าหมายสำคัญคือการผลักดันให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเมียนมายุติการสู้รบโดยเร็วที่สุด เพื่อเปิดทางให้มีการเข้าถึงและให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประชาชนผู้เดือดร้อน ตลอดจนเพื่อปูทางไปสู่การจัดการเลือกตั้งที่มีความเสรีและยุติธรรมในเมียนมาในอนาคต

การมาเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในครั้งนี้ และการที่ไทยถูกใช้เป็นเวทีกลางในการพบปะและหารือทั้งในระดับผู้นำรัฐบาลและระดับคณะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิดจากหลายฝ่าย ไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในระดับนานาชาติด้วย

ในส่วนของปัญหาชายแดนภาคใต้ของไทย ภาคเอกชนและนักวิชาการหลายท่านให้มุมมองว่า การที่ผู้นำมาเลเซียเดินทางมาหารือในประเด็นนี้โดยตรง ถือเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นการพัฒนาในเชิงบวกต่อกระบวนการสร้างสันติภาพ ซึ่งมาเลเซียมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุยมาโดยตลอด นอกจากนี้ การเร่งรัดโครงการโครงสร้างพื้นฐานยังจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้าตามแนวชายแดนอีกด้วย

สำหรับสถานการณ์ความขัดแย้งในเมียนมา หากการประสานงานและการเจรจาพูดคุยกับทุกฝ่ายสามารถนำไปสู่การหยุดยิง และเปิดทางสู่กระบวนการสร้างความปรองดองในเมียนมาได้ ย่อมเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะประเทศไทยซึ่งมีพรมแดนทางบกติดกับเมียนมาเป็นแนวยาวตั้งแต่ภาคเหนือจรดภาคใต้ และมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเมียนมา ทั้งในมิติทางสังคม เศรษฐกิจ และมนุษยธรรม ความสงบสุขในเมียนมาย่อมส่งผลดีต่อไทยอย่างมีนัยสำคัญ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *