แจ้งวัฒนะ, กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงกรณีแนวคิดการจัดตั้ง ‘กรมกิจการคนเข้าเมือง’ ซึ่งจะมีการดึงสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่ปัจจุบันสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทย

นายอนุทิน กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ขณะนี้แนวคิดดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาเท่านั้น ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่เป็นรูปธรรม โดยเน้นย้ำว่าการพิจารณาเรื่องนี้จะยึดประโยชน์สูงสุด ความสะดวก และความมีประสิทธิภาพในการทำงานเป็นสำคัญ

สำหรับความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกรมใหม่ขึ้นจริงนั้น นายอนุทิน ระบุว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) หาก ครม. มีมติเห็นชอบ ก็จะต้องมีการออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อรองรับการจัดตั้ง ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดนี้ยังต้องใช้ระยะเวลาอีกยาวไกล ไม่ได้เกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้

รมว.มหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในอดีต เพื่อนำมาถอดบทเรียนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการให้สัญชาติและการตรวจคนเข้าเมือง โดยศึกษาถึงอุปสรรค ปัญหาที่เคยเกิดขึ้น และแนวทางแก้ไขที่ควรจะเป็น เพื่อให้การทำงานในอนาคตมีความราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายอนุทิน ย้ำชัดว่า ในขณะนี้ แนวคิดเรื่องการตั้งกรมกิจการคนเข้าเมืองยังเป็นเพียง ‘การศึกษาภายในกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น’ ยังไม่มีการนำเสนอไปยังหน่วยงานภายนอก หรือมีข้อสรุปที่แน่นอน และได้ยกตัวอย่างภาระงานของกรมการปกครองในปัจจุบัน ที่ต้องดูแลเรื่องการให้สัญชาติแก่ประชาชนจำนวนมากถึง 4-5 แสนคน ซึ่งเป็นภาระงานที่หนักอยู่แล้ว แม้จะยังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. ตรวจคนเข้าเมือง โดยตรง แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการพิจารณาโครงสร้างการทำงานเพื่อให้เกิดความคล่องตัวและเหมาะสมกับปริมาณงานในอนาคต

การชี้แจงในครั้งนี้ของนายอนุทิน มีขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวและการหารือภายในเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านคนเข้าเมือง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทั้งด้านความมั่นคง การอำนวยความสะดวก และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติและการให้สัญชาติ