อนุทิน ติงแรง! ผู้ว่าฯปราจีนฯ ตั้งที่ปรึกษาชาวจีน ชี้ไม่เหมาะสม เปลืองกระดาษ สั่งปลัดฯ ตำหนิ พร้อมขอโทษประชาชน

กระทรวงมหาดไทย – เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงกรณีที่นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้แต่งตั้งชาวจีนเป็นที่ปรึกษาประจำตัว ก่อนจะมีคำสั่งยกเลิกไปหลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม

นายอนุทินกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า กรณีดังกล่าว "สมควรที่จะได้รับวิพากษ์วิจารณ์" เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด

ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้รับรายงานเรื่องนี้จากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวานนี้ (29 เม.ย. 68) และได้ฝากตำหนิไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีทันที โดยย้ำว่าการกระทำเช่นนี้แสดงถึงการขาดวุฒิภาวะที่เหมาะสมกับตำแหน่ง พร้อมเชื่อมั่นว่าปลัดกระทรวงจะดำเนินการตักเตือนตามระเบียบของราชการ ส่วนตัวในฐานะรัฐมนตรี ต้องขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจจากเหตุการณ์นี้

เมื่อถูกถามว่าจำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีนี้หรือไม่ นายอนุทินชี้แจงว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของความผิดทางวินัยโดยตรง แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสม ยืนยันว่า "เกียรติยศ" ของผู้ว่าราชการจังหวัดคือการรับใช้ประชาชน ไม่ใช่การมีใครมาประดับบารมี การแต่งตั้งที่ปรึกษาในลักษณะนี้มองว่าเป็นการ "เปลืองกระดาษราชการ" โดยไม่จำเป็น เพราะหากต้องการปรึกษาหารือเรื่องใด ๆ สามารถพูดคุยกันได้ หากมีเจตนาที่ดีต่อกัน

สำหรับคำชี้แจงของผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีที่ระบุว่า การตั้งที่ปรึกษาชาวจีนมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นั้น นายอนุทินกล่าวว่า "ฟังไม่ขึ้น" เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นข้าราชการระดับสูง (ซี 10) มีความรู้ความสามารถ และมีผู้คนมากมายพร้อมให้คำปรึกษาอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้ประกอบการหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งการปรึกษาหารือเหล่านี้สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

นายอนุทินย้ำว่า ตนเองในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ก็ได้ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีความรู้มากมายอยู่เสมอ แต่ไม่จำเป็นต้องมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เพียงแค่ขอคุยกันเป็นการส่วนตัวก็เพียงพอแล้ว

ประเด็นเรื่องผลประโยชน์แอบแฝงจากการตั้งที่ปรึกษา ถูกหยิบยกขึ้นมาถาม ซึ่งนายอนุทินขอให้มองในแง่ดีไว้ก่อน โดยระบุว่า หากมีการแสวงหาผลประโยชน์จริง คงไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้อย่างเปิดเผย แต่เน้นย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของ "ความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม" มากกว่า

ท้ายที่สุด นายอนุทินได้ฝากให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบด้วยว่า มีจังหวัดอื่น ๆ อีกหรือไม่ ที่มีการแต่งตั้งชาวต่างชาติเป็นที่ปรึกษาในลักษณะเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีก พร้อมกล่าวปิดท้ายว่า จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *