“อนุทิน” รับคำขอโทษผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ปมตั้งที่ปรึกษาชาวจีน ย้ำยกเลิกหมดแล้ว ไร้เสียหายงบประมาณ คาดไม่เกิดซ้ำ

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เดินทางเข้าพบพร้อมมอบพวงมาลัยเพื่อแสดงการขอโทษ กรณีมีคำสั่งแต่งตั้งบุคคลซึ่งเป็นชาวจีนเข้ามาเป็นที่ปรึกษา ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม

นายอนุทิน เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีได้เข้าพบเพื่อขอโทษที่ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดใจ ซึ่งตนเองไม่ได้รู้สึกอึดอัดเป็นการส่วนตัว แต่เข้าใจว่าท่านผู้ว่าฯ คงเห็นจากการที่ตนให้สัมภาษณ์แสดงความรู้สึกว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ควร

ในส่วนของคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษาชุดดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีได้รายงานว่า ได้ดำเนินการยกเลิกคำสั่งทั้งหมดแล้ว พร้อมได้ชี้แจงเหตุผลในการยกเลิกให้รับทราบ

สำหรับกรณีที่กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสำรวจและตรวจสอบการแต่งตั้งที่ปรึกษาต่างๆ และให้รายงานกลับมายังกระทรวงฯ นั้น นายอนุทินชี้แจงว่า เป็นการดำเนินการของปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการฝ่ายประจำในกระทรวงฯ และตนเองในฐานะรัฐมนตรีจะดูแลงานในเชิงนโยบายเป็นหลัก จึงไม่ได้ทราบรายละเอียดในส่วนของการตรวจสอบถึงขนาดนั้น โดยต้องแยกงานระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายประจำออกจากกัน

เมื่อถูกถามถึงแนวทางการดำเนินการต่อไปภายหลังการยกเลิกคำสั่ง นายอนุทินกล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีได้จัดทำรายงานชี้แจงเหตุผลในการออกคำสั่งดังกล่าวมาแล้ว โดยระบุว่ามีความคิดที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นมุมมองของผู้ว่าฯ เอง

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ได้รับรายงานในเรื่องนี้แล้ว และได้แจ้งไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะไปขอคำปรึกษาจากบุคคลภายนอกที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และมีบุคคลที่พร้อมให้คำปรึกษาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องดำเนินการถึงขั้นออกคำสั่งแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เนื่องจากคำสั่งทั้งหมดได้ถูกยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว และเชื่อมั่นว่าเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้คงจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต

ส่วนประเด็นว่าการแต่งตั้งดังกล่าวมีผลเสียต่อทางราชการหรือไม่ นายอนุทินชี้แจงว่า จะมีผลเสียก็ต่อเมื่อบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งไปแอบอ้างหรือใช้ตำแหน่งในทางที่ผิด ซึ่งผู้ที่ออกคำสั่งจะต้องรับผิดชอบ แต่ในกรณีนี้ ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งไม่ได้มีอัตราเงินเดือน ไม่มีเบี้ยประชุม และไม่สามารถเบิกค่าเดินทางได้ จึงยืนยันได้อย่างแน่นอนว่าไม่มีความเสียหายด้านงบประมาณเกิดขึ้น

ดังนั้น สิ่งที่ตนได้สื่อสารออกไป เปรียบเสมือนการกำหนดเป็นนโยบายว่า หากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรออกคำสั่งแต่งตั้งที่ปรึกษา ซึ่งเป็นการย้ำหลักการความเหมาะสมในการปฏิบัติราชการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *