อนุสรณ์ ย้ำอำนาจปรับ ครม. อยู่ที่ ‘นายกฯ แพทองธาร’ ลั่น ‘เพื่อไทย’ พร้อมซัพพอร์ตทุกการตัดสินใจ ปัดข่าวขอ ‘มหาดไทย’ คืน

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีการคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ปี 2569 ภายหลังจากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 แล้วเสร็จ

นายอนุสรณ์ กล่าวอย่างชัดเจนว่า ขอเน้นย้ำว่าอำนาจในการปรับ ครม. ทั้งหมดนั้นเป็นของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่เพียงผู้เดียว และท่านเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้ยังไม่ถึงปี นับรวมแล้วประมาณ 7-8 เดือน ซึ่งท่านทำงานหน้างานอย่างเต็มที่และขับเคลื่อนงานด้วยตนเองอยู่ตลอด

สำหรับผลโพลที่อาจจะมีบางส่วนระบุว่าประชาชนอยากให้มีการปรับ ครม. นั้น นายอนุสรณ์ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น แต่ก็ยังคงยืนยันในหลักการว่า อำนาจการตัดสินใจขั้นสุดท้ายอยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามถึงกระแสข่าวเรื่องการปรับ ครม. ที่เกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอนุสรณ์ ชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวมักมาจากภายนอกพรรค บรรยากาศภายในพรรคไม่ได้มีความวุ่นวายหรือเตรียมการรับมือใดๆ ไม่มีการพูดคุยกันภายในว่าใครจะเข้าหรือใครจะออก เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเองก็ส่งสัญญาณมาโดยตลอดว่าอำนาจการปรับ ครม. เป็นอำนาจของท่าน และเห็นว่าคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันนี้ยังสามารถทำงานร่วมกันได้

ส่วนประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีการปรับ ครม. ในกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการค้าขาย นายอนุสรณ์ ระบุว่า พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตย รัฐมนตรีหรือ สส. ทุกคนสามารถสะท้อนการทำงานของกันและกันได้ การที่มีข้อเสนอแนะหรือข้อแนะนำต่างๆ ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากการประชุม สส. ของพรรคประจำสัปดาห์นั้น จะมีรัฐมนตรีของพรรคเข้ามาฟังเสียง สส. ที่สะท้อนปัญหาและความต้องการของประชาชน

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่า “การเสนอแนะหรือแนะนำต่างๆ นั้น ไม่ได้เป็นกระแสกดดันหรือขับไล่รัฐมนตรีในกระทรวงนั้นๆ แต่อย่างใด ทุกคนยังคงเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล รวมถึงยังเชื่อมั่นในรัฐมนตรีทุกคน ส่วนเรื่องจะปรับ ครม. เมื่อไหร่ อย่างไรนั้น เชื่อว่าจะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็มว่าจะปรับในช่วงเวลาใด หรือยังไม่ปรับก็ได้”

สำหรับกระแสข่าวลือที่ว่าพรรคเพื่อไทยจะขอกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทย เพื่อให้เข้ามาดูแลเองและเพื่อชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น นายอนุสรณ์ กล่าวว่า กระแสข่าวนี้ก็ได้ยินมาจากนอกพรรคเช่นกัน แต่ในพรรคไม่ได้มีการพูดคุยหรือหารือในประเด็นนี้เลย

นายอนุสรณ์ แสดงความเห็นว่า การจะขอแลกกระทรวงมหาดไทยมาดูแลเองเพื่อความได้เปรียบในการเลือกตั้งนั้น ไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่แท้จริง เพราะกระทรวงมหาดไทยไม่ได้มีอำนาจควบคุมการจัดการเลือกตั้งโดยตรง แต่ผู้บริหารจัดการการเลือกตั้งคือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างไรก็ตาม มีเสียงสะท้อนว่าในบางจังหวัดหรือบางพื้นที่ หากผู้ว่าราชการจังหวัด หรือการปกครองในแต่ละจังหวัด ไปอิงฝ่ายการเมืองมากเกินไป ท้ายที่สุดประชาชนก็จะไม่ได้ประโยชน์

“พรรคเพื่อไทยคงไม่ติดอะไรหากผู้ว่าฯ ยังอยู่ในกำกับการดูแลของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่น เพราะผู้ว่าฯ ก็ต้องทำงานร่วมกับรัฐบาลอยู่แล้ว ยืนยันว่าแม้จะไม่สลับกระทรวงก็ยังทำงานร่วมกันได้ หรือหากจะมีการสลับกระทรวงแล้วผลประโยชน์ตกอยู่ที่ประชาชน พรรคเพื่อไทยก็ไม่มีปัญหา แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือทั้งหมดเป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร เราพร้อมที่จะซัพพอร์ตและสนับสนุนการตัดสินใจของท่านอย่างเต็มที่” นายอนุสรณ์ กล่าวย้ำในตอนท้าย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *