‘อนุสรณ์’ ชี้ DSI เดินหน้าไขปมฮั้ว สว. สัญญาณดี! จี้ กกต. เร่งตรวจสอบคู่ขนาน ย้ำทุกฝ่ายต้องโปร่งใส

‘อนุสรณ์’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ชี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เดินหน้าสอบสวนปม ‘ฮั้ว สว.’ เป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนความผิดปกติในกระบวนการเลือก ชี้ กกต. ต้องใช้ข้อมูลนี้เร่งตรวจสอบคู่ขนานอย่างโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน หลังพบข้อพิรุธหลายประการจากการจำลองเหตุการณ์ ย้ำทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้การเลือก สว. เป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม

เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์วันเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการ ‘ฮั้ว’ การเลือก สว. ว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่หน่วยงานต่างๆ กำลังทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา เพื่อช่วยกันคลี่คลายข้อกังขาที่เกิดขึ้นในสังคม

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า จากการที่ DSI ได้ลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์ ทำให้พบเห็นข้อพิรุธหลายประการในกระบวนการ อาทิ ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนในลำดับต้นๆ หรือได้คะแนนสูงมาก กลับไม่มีท่าทีตื่นเต้นยินดีเหมือนกับว่ารู้ผลคะแนนล่วงหน้าอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังพบว่ามีบุคคลคอยจดบันทึกคะแนนใส่แฟ้มข้อมูล เพื่อรายงานต่อไปยังศูนย์ควบคุมกลาง ซึ่งลักษณะเช่นนี้ชี้ให้เห็นว่าอาจมีการเตรียมการและทำงานกันอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการ

สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า การที่ DSI เดินหน้าทำงานในเชิงรุกในประเด็นนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเป็น ‘สารตั้งต้น’ หรือข้อมูลเบื้องต้นให้กับหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องการฮั้ว สว. โดยตรง โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่ง กกต. ควรใช้โอกาสนี้ในการเดินหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงคู่ขนานไปกับ DSI และต้องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นถึงความโปร่งใสของกระบวนการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มการเมืองใดเป็นพิเศษ

นายอนุสรณ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ DSI รับคดีที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว. บางส่วนไว้เป็นคดีพิเศษในข้อหา ‘อั้งยี่’ ว่า ยิ่งตอกย้ำถึงความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการเลือกตั้ง สว. ซึ่งอาจมีกลุ่มเครือข่ายหรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ทำให้จำเป็นต้องมีการเร่งสอบสวนอย่างเข้มข้นโดยไม่เว้นใคร เพื่อนำความจริงมาเปิดเผยอย่างโปร่งใส และเรียกร้องให้องค์กรตรวจสอบอื่นๆ ที่อาจยังได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วนก่อนหน้านี้ ใช้โอกาสนี้ในการแสวงหาข้อมูลและข้อเท็จจริงเพิ่มเติมให้รอบด้าน

ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยุติการสอบสวนเรื่องฮั้วเลือก สว. โดยอ้างว่าไม่เข้าเงื่อนไขที่จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายอนุสรณ์ เรียกร้องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจนว่าไม่เข้าเงื่อนไขอย่างไร เพราะการตัดสินใจเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ และทำให้ประชาชนยังคงค้างคาใจและรอคำตอบที่ชัดเจน

ในตอนท้าย นายอนุสรณ์ ย้ำว่า การทำหน้าที่ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว. จะต้องดำเนินไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และเพื่อให้กระบวนการเลือก สว. ครั้งนี้เป็นไปอย่างสุจริต เที่ยงธรรม และโปร่งใสมากที่สุด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *