การเมืองไทยมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาอีกครั้ง เมื่อมีรายงานข่าวหนาหูว่า สองอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครชื่อดัง ได้ตัดสินใจลาออกจากพรรคต้นสังกัดเดิม และเตรียมไปร่วมงานกับพรรคใหม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อสมการการเมืองในอนาคต

วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากแหล่งข่าวในแวดวงการเมือง ระบุถึงกระแสข่าวการย้ายพรรคของนักการเมืองหลายราย โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับพรรคกล้าธรรม (กธ.) ซึ่งก่อนหน้านี้ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ได้เคยให้สัมภาษณ์เป็นนัยว่า จะมีการทยอยเปิดตัว ส.ส. และนักการเมืองที่มีศักยภาพเข้ามาร่วมเสริมทัพกับพรรค กธ. อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ล่าสุด รายงานข่าวเชิงลึกระบุว่า พรรคกล้าธรรมกำลังเตรียมความพร้อมที่จะเปิดตัวอดีต ส.ส. คนสำคัญถึง 2 ราย ได้แก่ นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต ส.ส.กทม. หลายสมัย ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมือง อาทิ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) และ นายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. เขตหลักสี่

ทั้ง น.อ.อนุดิษฐ์ และ นายการุณ เป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองที่มีฐานเสียงและประสบการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยทั้งคู่เคยสังกัดพรรคเพื่อไทยมาก่อน ก่อนที่จะย้ายไปร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ซึ่งก่อตั้งโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า ทั้ง นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ์ และ นายการุณ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การตัดสินใจครั้งนี้ตอกย้ำกระแสข่าวที่ว่า ทั้งคู่เตรียมที่จะย้ายไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมจริง

การย้ายพรรคของอดีต ส.ส. ชื่อดังทั้งสองคนนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ว่าจะส่งผลอย่างไรต่อภูมิทัศน์ทางการเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งคู่มีบทบาทและฐานเสียงอยู่ การเข้าร่วมกับพรรคกล้าธรรม ซึ่งมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นแกนนำ อาจเป็นการเสริมทัพครั้งสำคัญให้กับพรรคดังกล่าว ในการเตรียมพร้อมสู่สนามเลือกตั้งในอนาคต

คงต้องติดตามดูความชัดเจนและการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจากพรรคกล้าธรรมต่อไป ว่าดีลสำคัญนี้จะเกิดขึ้นจริงตามกระแสข่าวหรือไม่ และจะมีนักการเมืองรายอื่นๆ ทยอยเข้าร่วมกับพรรคกล้าธรรมอีกหรือไม่.