รัฐบาลย้ำชัด! โรคแอนแทรกซ์ ‘ไม่ติดต่อจากคนสู่คน’ ขอประชาชนอย่ากังวล – ชี้แจง 3 ช่องทางแพร่เชื้อและวิธีป้องกัน
กรุงเทพฯ – นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า “โรคแอนแทรกซ์” (Anthrax) เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนเท่านั้น และยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าโรคนี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ขอให้ประชาชนอย่าได้วิตกกังวล
นายอนุกูลกล่าวว่า โรคแอนแทรกซ์เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า Bacillus anthracis ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในธรรมชาติ เช่น ดิน น้ำ โดยสปอร์ของเชื้อมีความทนทานสูงต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย สามารถคงอยู่ในดินได้นานหลายปี โดยเฉพาะในบริเวณที่มีซากสัตว์ป่วยตายด้วยโรคนี้
สัตว์พาหะและการติดเชื้อในคน
สัตว์พาหะหลักของโรคแอนแทรกซ์ ได้แก่ โค กระบือ แพะ และแกะ โดยสัตว์ที่ติดเชื้อจะมีอาการไข้ ซึม ไม่กินอาหาร และอาจเสียชีวิตอย่างกะทันหัน
สำหรับมนุษย์ การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่วย เช่น การชำแหละเนื้อสัตว์ การบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก การสัมผัสกับหนังสัตว์หรือขนสัตว์ที่มีสปอร์ของเชื้อ
ช่องทางการแพร่เชื้อสู่คนมี 3 ทางหลัก:
- การสัมผัส (Cutaneous Anthrax): พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการที่สปอร์ของเชื้อเข้าสู่บาดแผล รอยถลอก หรือผิวหนังที่มีรอยปริแตก ผู้ป่วยจะมีอาการหลังจากสัมผัสเชื้อประมาณ 1-7 วัน (หรือนานกว่านั้น) โดยเริ่มจากตุ่มเล็กๆ บนผิวหนัง พัฒนาเป็นตุ่มน้ำใส และแตกออกกลายเป็นแผลหลุมสีดำคล้ายแผลถูกบุหรี่จี้ หากไม่ได้รับการรักษา เชื้ออาจลุกลามเข้าสู่ต่อมน้ำเหลืองและกระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะโลหิตเป็นพิษซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- การรับประทาน (Gastrointestinal Anthrax): เกิดจากการรับประทานเนื้อสัตว์ที่ป่วยด้วยโรคแอนแทรกซ์แบบดิบ หรือปรุงไม่สุก ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน คล้ายกับอาการอาหารเป็นพิษ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เชื้ออาจเข้าสู่กระแสเลือดและทำให้เสียชีวิตได้
- การหายใจ (Inhalation Anthrax): พบได้น้อยที่สุด แต่มีความรุนแรงสูง เกิดจากการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อแอนแทรกซ์เข้าไป ซึ่งมักปนเปื้อนอยู่ในบริเวณที่มีสัตว์ป่วยหรือตาย สปอร์สามารถคงอยู่ในอากาศได้นาน ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ในระยะแรก เช่น ไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ไอ ก่อนจะมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น หายใจลำบาก หน้าเขียวคล้ำ และอาจเสียชีวิตจากภาวะระบบหายใจล้มเหลว
วิธีป้องกันตนเองและข้อแนะนำ
นายอนุกูลได้ให้คำแนะนำในการป้องกันโรคแอนแทรกซ์ ดังนี้:
- ควรสวมถุงมือทุกครั้งเมื่อต้องชำแหละเนื้อสัตว์ หรือปรุงอาหารจากเนื้อสัตว์ และล้างมือให้สะอาดหลังสัมผัส
- ปรุงเนื้อสัตว์ให้สุกทั่วถึงก่อนรับประทานเสมอ
- เลือกซื้อเนื้อสัตว์จากแหล่งที่เชื่อถือได้และได้มาตรฐาน
ทั้งนี้ โรคแอนแทรกซ์สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ หากประชาชนพบอาการผิดปกติหลังจากสัมผัสสัตว์หรือเนื้อสัตว์ที่น่าสงสัย ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว หรือในกรณีที่มีความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อแต่ยังไม่มีอาการ แพทย์อาจพิจารณาให้ยาเพื่อป้องกันการเกิดอาการรุนแรง
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคแอนแทรกซ์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422