กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 เมษายน 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความผู้รับมอบอำนาจ พร้อมด้วยนายรามลลิต สุกุลพราหมณ์ และนายใจประกาศ ซิงห์ ผู้แทนสมาชิกสมาคมฮินดูธรรมสภา (วัดวิษณุ) ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะนายทะเบียนสมาคมประจำกรุงเทพมหานคร

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ตนและผู้แทนสมาชิกได้เคยยื่นหนังสือร้องเรียนถึงอธิบดีกรมการปกครองแล้ว เพื่อขอให้มีคำสั่งเลิกสมาคมฮินดูธรรมสภา หรือสั่งให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การบริหารสมาคมเป็นไปตามหลักนิติรัฐ ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน

อย่างไรก็ตาม ผ่านมานานกว่า 5 เดือนแล้ว กลับไม่ปรากฏความคืบหน้าใดๆ จากกรมการปกครอง ไม่มีการแจ้งผลการดำเนินการ และไม่มีหนังสือตอบรับใดๆ เกี่ยวกับกรณีการตรวจสอบคณะกรรมการบริหารสมาคมฮินดูธรรมสภาชุดปัจจุบัน ซึ่งได้รับการเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งครบวาระไปแล้วตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2566 แต่ยังคงรักษาการบริหารงานสมาคมฯ ต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งกินระยะเวลานานกว่า 1 ปี 3 เดือน โดยอ้างมติที่ประชุมใหญ่สามัญที่มีสมาชิกเพียง 44 คน จากทั้งหมด 163 คน ให้รักษาการต่อจนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ และคดีความต่างๆ จะสิ้นสุดลง

นายอนันต์ชัย ชี้แจงว่า ตามข้อบังคับของสมาคมฮินดูธรรมสภา กำหนดให้คณะกรรมการบริหารมีวาระคราวละ 2 ปี และเมื่อครบวาระแล้ว ต้องจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีเพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ภายใน 30 วัน การที่คณะกรรมการชุดปัจจุบันไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับนี้ ถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ อย่างชัดเจน และอาจมีเจตนาเพื่อยึดติดตำแหน่งและรักษาอำนาจ

ทนายอนันต์ชัย ยังกล่าวด้วยว่า สมาคมฮินดูธรรมสภา (วัดวิษณุ) ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของบุคคลหรือกลุ่มใด การกระทำลักษณะนี้อาจเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงทางศาสนา เนื่องจากสมาคมมีทรัพย์สินมูลค่าสูง และมีเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาเป็นจำนวนมาก การมีข้อกำหนดเรื่องวาระกรรมการก็เพื่อให้มีการหมุนเวียนตำแหน่ง เปิดโอกาสให้สมาชิกคนอื่นมีส่วนร่วมในการบริหารและตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม

ปัญหาความขัดแย้งภายในสมาคมฯ ได้เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปี มีการแบ่งกลุ่มเพื่อแย่งชิงอำนาจและสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวฮินดูในประเทศไทย ซึ่งสมาชิกสมาคมฯ และนายทะเบียนท้องถิ่นจำนวนมากก็ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนข้อเท็จจริงต่างๆ แต่ความขัดแย้งนี้ยังคงอยู่ สร้างความสับสนต่อผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูที่มาประกอบศาสนกิจที่วัดวิษณุ ถือเป็นความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่ จนทำให้กรรมการทยอยลาออก และจำนวนสมาชิกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือในหมู่สมาชิกถึงความพยายามวิ่งเต้นเพื่อให้เรื่องยุติ และให้หน่วยงานรัฐมีคำสั่งที่เป็นคุณแก่ฝ่ายคณะกรรมการบริหารชุดเดิม ซึ่งขัดต่อหลักนิติรัฐ นิติธรรม ทั้งที่นายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร มีอำนาจตามกฎหมายในการยุบสมาคม หรือมีคำสั่งให้จัดเลือกตั้งใหม่ได้ แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ

ด้วยเหตุนี้ นายอนันต์ชัย และผู้แทนสมาชิก จึงได้เข้ายื่นหนังสือโดยตรงต่อรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด เพื่อขอให้พิจารณาตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของอธิบดีกรมการปกครองที่ล่าช้าและเพิกเฉย พร้อมขอให้กระทรวงมหาดไทยวินิจฉัยและมีคำสั่งให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งทันที ไม่ว่าจะเป็นการยุบสมาคม หรือมีคำสั่งให้จัดเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ได้คณะกรรมการบริหารชุดใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่อาจลุกลาม

นายอนันต์ชัย เชื่อมั่นว่า หากมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ปัญหาต่างๆ ภายในสมาคมฮินดูธรรมสภาจะสงบลง เป็นเนติแบบอย่างในการใช้อำนาจรัฐเพื่อผดุงความถูกต้อง และเยียวยาความเดือดร้อนของสมาชิกสมาคมฯ ในฐานะพลเมืองต่อไป