อัล อิตติฮัด ผงาดคว้าแชมป์ซาอุดี โปรลีก สมัยที่ 10 การันตีหลังบุกชนะ อัล ราอิด
สโมสร อัล อิตติฮัด ที่นำทัพโดยขุนพลระดับโลกอย่าง คาริม เบนเซมา, เอ็นโกโล ก็องเต และฟาบินโญ การันตีคว้าแชมป์ฟุตบอลซาอุดี โปรลีก ฤดูกาลล่าสุด 2023-2024 ไปครองได้สำเร็จ นับเป็นสมัยที่ 10 ของสโมสร หลังทำผลงานยอดเยี่ยม บุกไปเอาชนะ อัล ราอิด ถึงถิ่นได้ในเกมนัดล่าสุด
การแข่งขันฟุตบอลซาอุดี โปรลีก ประจำฤดูกาล 2023-2024 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา อัล อิตติฮัด มีโปรแกรมออกไปเยือน อัล ราอิด ณ สนามคิง อับดุลลาห์ สปอร์ต ซิตี้ เริ่มเกมมาได้เพียง 9 นาที เจ้าบ้าน อัล ราอิด ได้ประตูออกนำไปก่อนจาก อูมาร์ กอนซาเลซ แต่ อัล อิตติฮัด ก็ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง และมาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 21 จาก สตีเวน เบิร์กไวน์ ก่อนที่ ดานิโล เปเรยรา จะยิงให้ทีมเยือนแซงนำในนาทีที่ 40 และ อับดุลราห์มัน อัล โอบุด จะมาตอกย้ำชัยชนะในนาทีที่ 47 จบเกม อัล อิตติฮัด บุกมาเอาชนะ อัล ราอิด ไปด้วยสกอร์ 3-1
จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้อัล อิตติฮัด เก็บเพิ่มเป็น 77 คะแนน จากการลงสนาม 32 นัด ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 2 นัด และมีคะแนนทิ้งห่างรองจ่าฝูงอย่าง อัล ฮิลัล ถึง 9 คะแนน แม้ว่า อัล ฮิลัล จะลงเตะน้อยกว่า 1 นัด แต่ด้วยจำนวนแต้มสูงสุดที่ อัล ฮิลัล จะทำได้คือ 77 คะแนนเท่ากับ อัล อิตติฮัด ในปัจจุบัน แต่เมื่อพิจารณาจากเฮดทูเฮดระหว่างสองทีมแล้ว อัล อิตติฮัด มีผลงานที่ดีกว่า ส่งผลให้ อัล อิตติฮัด การันตีคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของซาอุดีอาระเบีย ประจำฤดูกาล 2023-2024 ไปครองได้อย่างแน่นอน แม้การแข่งขันจะยังไม่จบฤดูกาลก็ตาม
การคว้าแชมป์ซาอุดี โปรลีก ในครั้งนี้ ถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 10 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร อัล อิตติฮัด ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของทีมที่มีกุนซือมากประสบการณ์อย่าง โลร็องต์ บล็องก์ คุมทัพ และอุดมไปด้วยนักเตะซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่ย้ายมาจากลีกชั้นนำของยุโรปในช่วงไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น คาริม เบนเซมา กองหน้าดีกรีบัลลงดอร์, เอ็นโกโล ก็องเต กองกลางจอมขยัน, ฟาบินโญ มิดฟิลด์ตัวรับ, ฮุสเซม อาอูอาร์, มุสซา ดิยาบี, สตีเวน เบิร์กไวน์ และผู้รักษาประตูอย่าง เปรดรัก ไรโควิช ซึ่งการเสริมทัพครั้งใหญ่ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จในการนำพาสโมสรกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ในประเทศอีกครั้ง
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ในวันเดียวกันที่น่าสนใจ อัล กัดซิอาห์ เปิดบ้านเอาชนะ อัล เวห์ดา ไปได้ 3-1 และ อัล ริยาด แพ้คาบ้านต่อ อัล ชาบับ 1-3