นครศรีธรรมราช – ความคืบหน้าล่าสุดในคดีสะเทือนขวัญ การฆ่าชิงทรัพย์นางหนูนิล อายุ 89 ปี ซึ่งถูกคนร้ายลงมืออย่างเหี้ยมโหดเพื่อหวังเอาทรัพย์สินเป็นเงินสดและทองรูปพรรณมูลค่ารวมกว่า 2.5 แสนบาท ล่าสุดวันนี้ (วันที่ 13 พ.ค.68) มีรายงานความคืบหน้าสำคัญที่นำไปสู่การปิดคดีนี้แล้ว

บรรยากาศที่ศูนย์นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และที่วัดสวนหลวงเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย ครอบครัวของนางหนูนิล ได้ประกอบพิธีทางศาสนาอย่างเรียบง่าย โดยได้นิมนต์พระสงฆ์เดินทางไปยังจุดที่พบศพริมถนนเทิดพระเกียรติ ตำบลปากนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตให้กลับบ้านและวัด ก่อนที่ญาติจะเดินทางมารับร่างอันไร้วิญญาณของนางหนูนิลจากศูนย์นิติเวช เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่วัดสวนหลวง โดยทุกคนที่มาร่วมงานต่างร่ำไห้ด้วยความเสียใจกับการจากไปอย่างกะทันหันและโหดร้ายของคุณยาย

ขณะที่ญาติกำลังดำเนินการเรื่องการรับศพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข่าวดีเกี่ยวกับความคืบหน้าของคดี สร้างความพอใจและคลายความกังวลให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว คือ นายเจริญ หรือฉายาว่า “ไอ้เตี้ย” ซึ่งถูกจับกุมตัวได้ที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังหลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านญาติคนหนึ่ง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเจริญ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าและชิงทรัพย์นางหนูนิลจริง โดยอ้างว่าต้องการเงิน และเนื่องจากรู้จักกับผู้ตาย จึงตัดสินใจฆ่าปิดปากเพื่อไม่ให้เรื่องราวถูกเปิดเผย ก่อนจะหลบหนีไปซ่อนตัวที่เกาะสมุย กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากประเด็นการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว ยังมีรายงานเพิ่มเติมที่น่าตกใจเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ต้องหา โดยพบว่าเพื่อนคนหนึ่งของนายเจริญ ซึ่งเป็นพลเมืองดีที่ได้ให้เบาะแสสำคัญกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ได้ถูกนายเจริญโทรศัพท์มาข่มขู่ในลักษณะคุกคามถึงชีวิต โดยอ้างว่าจะถูกฆ่ายัดกระสอบให้ตายตามนางหนูนิลไปอีกคน ซึ่งผู้เสียหายได้มีการบันทึกคลิปเสียงการสนทนาดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานแล้ว

ขณะนี้ นายเจริญ อยู่ระหว่างการควบคุมตัวและกำลังถูกนำตัวเดินทางจากเกาะสมุยมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมีรายงานว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 จะเดินทางมาแถลงข่าวปิดคดีนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของการสืบสวนสอบสวน รวมถึงหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

คดีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว สร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมได้เป็นอย่างดี แต่ประเด็นการข่มขู่พยานถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและดูแลความปลอดภัยของพยานต่อไป