กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงมาตรการควบคุมโรคแอนแทรกซ์ในโค ภายหลังมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 1 ราย ซึ่งมีประวัติเกี่ยวข้องกับการชำแหละและรับประทานเนื้อโคดิบ ว่า ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวด

นายอิทธิ กล่าวว่า ล่าสุด กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการปิดพื้นที่ต้องสงสัย เพื่อป้องกันไม่ให้โคและกระบือเข้ามากินหญ้ารวมกันในบริเวณกว้าง รวมถึงสั่งห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกพื้นที่ดังกล่าว พร้อมทั้งดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์ให้กับโคและกระบือในพื้นที่เป้าหมายแล้วกว่า 1,200 ตัว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและควบคุมการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการอย่างเด็ดขาดห้ามการเคลื่อนย้ายสัตว์ โคและกระบือ ออกจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เพื่อป้องกันการกระจายของโรคไปยังพื้นที่อื่น โดยมั่นใจว่ามาตรการที่ดำเนินการอยู่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ ทั้งในระดับอำเภอและจังหวัด ที่กำลังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลและสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคและผู้ค้าโคในประเทศไทย

สำหรับมาตรการป้องกันเพิ่มเติม ได้สั่งการให้มีการปิดกั้นพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อตรวจโรคสัตว์อย่างละเอียด และกำชับเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์บริเวณท่าอากาศยานและท่าเรือให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้าสัตว์ เพื่อป้องกันโรคแอนแทรกซ์จากภายนอก

นายอิทธิระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดว่าผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวติดเชื้อมาจากแหล่งใด และยืนยันว่าในพื้นที่เฝ้าระวังยังไม่มีรายงานการเสียชีวิตของโคและกระบือเพิ่มเติม รวมถึงไม่พบสัตว์ติดเชื้อป่วยเพิ่มแต่อย่างใด

ด้าน น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเสริมว่า ทางกรมปศุสัตว์ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุขในการสอบสวนโรค โดยยืนยันข้อมูลผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้ป่วยรักษาตัว 1 รายตามรายงานเบื้องต้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างหลักฐานในพื้นที่รอบผู้ป่วย ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบภายใน 7 วัน

อธิบดีกรมปศุสัตว์ย้ำว่า ได้เร่งดำเนินการจัดหาและฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมกลุ่มเสี่ยง และสั่งห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ออกจากพื้นที่ควบคุมเด็ดขาด

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกรมปศุสัตว์ยืนยันว่าจะไม่นิ่งนอนใจ และจะติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคแอนแทรกซ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง พร้อมทั้งพร้อมลงพื้นที่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น เพื่อควบคุมโรคให้ได้โดยเร็วที่สุด