รมช.เกษตรฯ ‘อิทธิ’ ย้ำติดฉลากสินค้าเกษตรนำเข้า หนุนตรวจสอบย้อนกลับ สร้างความมั่นใจผู้บริโภค

กรุงเทพฯ – นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เป็นประธานการประชุมสำคัญร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาแนวทางการยกระดับและจัดทำฉลากสินค้าเกษตร โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับผู้บริโภคชาวไทย ในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากต่างประเทศ

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้น ณ ห้องประชุม 134 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีผู้แทนระดับสูงจากหลายหน่วยงานเข้าร่วมอย่างคับคั่ง อาทิ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักในการขับเคลื่อนเรื่องมาตรฐานสินค้าเกษตร, กรมประมง, กรมปศุสัตว์, กรมการข้าว และกรมวิชาการเกษตร เพื่อร่วมกันระดมสมองและกำหนดทิศทางการทำงานที่ชัดเจน

นายอิทธิ ศิริลัทธยากร กล่าวย้ำถึงความจำเป็นในการติดฉลากบนผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ของสินค้าเกษตรที่นำเข้า โดยฉลากนี้จะต้องแสดงข้อมูลสำคัญอย่างชัดเจน เช่น แหล่งกำเนิด หรือแหล่งที่มาของสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เป็นการคุ้มครองผู้บริโภคภายในประเทศจากสินค้าที่อาจไม่ได้มาตรฐาน

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและป้องกันความซ้ำซ้อนในการทำงาน รมช.เกษตรฯ ได้มอบหมายให้ มกอช. ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของอาหารโดยตรง เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้และแนวทางในการติดฉลากบนสินค้าเกษตรนำเข้าให้สอดคล้องกับกฎหมายและกรอบการทำงานของทั้งสองหน่วยงาน การทำงานร่วมกันนี้จะช่วยให้การตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยหน่วยงานต่างๆ ภายใต้สังกัด ได้มีการดำเนินการและมีสัญลักษณ์ เครื่องหมายรับรอง หรือฉลากสินค้าเกษตรอยู่แล้วหลายรูปแบบ เพื่อเป็นเครื่องการันตีมาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค อาทิ เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร (Q-Mark) ของ มกอช. ซึ่งมีทั้งแบบทั่วไป (เครื่องหมาย Q ทั่วไป และ Organic Thailand) และแบบบังคับ (เครื่องหมาย Q บังคับ) ซึ่งระบบเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของสินค้าได้

นอกจากนี้ มกอช. ยังได้พัฒนาระบบ QR-Trace on Cloud ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้โทรศัพท์มือถือสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบข้อมูลของสินค้าแต่ละล็อตการผลิตได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น วันที่ผลิต ปริมาณการผลิต มาตรฐานที่สินค้าได้รับการรับรอง รวมถึงข้อมูลผู้รับซื้อ ซึ่งช่วยเพิ่มความโปร่งใสและความมั่นใจ

ยังมีตราสัญลักษณ์อื่นๆ ที่คุ้นเคย เช่น ตราสัญลักษณ์ประมงธงเขียว จากกรมประมง เพื่อรับรองการทำประมงที่ถูกกฎหมายและยั่งยืน, ตราสัญลักษณ์ ปศุสัตว์ OK และ Cage-free DLD จากกรมปศุสัตว์ เพื่อรับรองมาตรฐานฟาร์มและผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์, รวมถึงเครื่องหมายการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication หรือ GI) สำหรับสินค้าข้าวบางชนิด ซึ่งดำเนินการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการข้าวมีบทบาทสำคัญในกระบวนการ

การขับเคลื่อนเรื่องฉลากสินค้าเกษตรนำเข้าในครั้งนี้ จึงเป็นการต่อยอดและเชื่อมโยงระบบมาตรฐานที่มีอยู่เดิม ให้ครอบคลุมและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยต้องเปิดรับสินค้าเกษตรจากทั่วโลก การมีระบบฉลากที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ จะเป็นกลไกสำคัญในการปกป้องสิทธิและสุขภาพของประชาชน รวมถึงส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรมในตลาดสินค้าเกษตร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *