แอฟ ทักษอร ควง นนกุล เปิดใจเรื่องแต่งงานถึงขั้นน้ำตาไหล ซึ้งใจแฟนคลับ พร้อมเล่าเบื้องหลังหนังสั้นสุดท้าทาย
นางเอกชื่อดัง แอฟ ทักษอร และพระเอกรุ่นน้อง นนกุล ชานน ควงคู่กันมาเปิดตัวในฐานะพรีเซ็นเตอร์คู่ของผลิตภัณฑ์ Dr.JiLL Advanced Cream ณ อาคารเกษร ทาวเวอร์ ท่ามกลางบรรยากาศงานที่หลายคนแซวว่าดูคล้ายงานแต่งงาน
เมื่อถูกถามถึงเรื่องนี้ แอฟ หันไปมองแบ็กดร็อปงานก่อนตอบติดตลกว่า “เพิ่งเห็นตอนนี้แหละ อ๋อ! รู้แล้วงั้นก็เก็บเอาไว้เลย เดี๋ยวได้ใช้แน่นอน ถ้าเกิดว่า Dr.Jill เขาได้ฟีดแบ็กที่ดี เราจะได้จัดงานเร็ว ๆ นี้ค่ะ” ด้าน นนกุล ถึงกับออกปากว่า “เนี่ยถึงบอกว่าต่อหน้าคนเยอะ ๆ ผมสู้พี่เขาไม่ได้เลย”
ทั้งคู่ยังได้เปิดใจถึงความรู้สึกที่หลายคนอยากเห็นงานแต่งงานของพวกเขาทั้งสองคน นนกุล กล่าวว่า “เร่เข้ามาเลยครับ จริง ๆ เราดีใจอยู่แล้วที่ทุกคนซัพพอร์ตเราสองคน อย่างที่บอกเลยถ้าเกิดทุกอย่างเรียบร้อยหรืออะไรก็ตาม เดี๋ยวผมอัปเดตแน่นอน”
ในส่วนของประเด็นกำหนดเวลาที่ทั้งคู่เคยพูดถึงก่อนหน้านี้ แอฟ ได้ชี้แจงทำความเข้าใจว่า “ที่เรากำหนดเวลากันไว้ หมายถึงว่าเราจะได้ข้อสรุปว่าเราจะไปต่อหรือยังไง ไม่ใช่แปลว่าถึงกำหนดแล้วเราจะต้องแต่งเสมอไป เราอาจจะเปลี่ยนรูปแบบในทางอื่นก็ได้ แอฟรู้สึกว่าเราคบกันแบบโต ๆ กันแล้ว เลยไม่อยากไปเรื่อย ๆ เราคุยกันได้ไม่ว่ามันจะจบลงด้วยในรูปแบบไหน จะคู่หรือจะเพื่อนหรือจะอะไร เราก็มีเดดไลน์ไว้เพื่อที่เราจะได้มีเป้าหมายในความสัมพันธ์ของเรา ตอนนี้มันก็ยังโอเคแฮปปี้อยู่” นนกุล เสริมว่า “แต่ทิศทางในวันนี้มันก็เป็นไปแบบบวกครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของครอบครัวทั้งฝ่ายผมและฝ่ายพี่เขา มันเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้สึกไปในแง่บวก ทีนี้มันก็จะเป็นเรื่องของมุมมองในบางเรื่องที่ผมอาจจะยังไม่สะดวกตอบในตอนนี้”
เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกที่มีคนเชียร์คู่ของพวกเขาทั้งสองจำนวนมาก แอฟ ถึงกับน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งใจพร้อมกล่าวว่า “ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ แอฟซาบซึ้งใจมากจริง ๆ ยิ่งเราอยู่ในวงการนี้มา (นิ่งและน้ำตาไหล) แอฟขอบคุณกับทุก ๆ ความเข้าใจและความหวังดีที่ทุกคนมีให้ แอฟก็อยู่ตรงนี้มานาน มีทั้งเรื่องบวกเรื่องลบอะไรมาเรื่อย ๆ เราเหมือนโตมากับทุกคน แล้วทุกคนก็ให้พลังงานและกำลังใจดี ๆ กับแอฟมาตลอด เลยรู้สึกขอบคุณมาก ๆ” นนกุล เล่าเสริมว่า “ผมว่าไม่ใช่แค่คอมเมนต์ตามออนไลน์นะครับ หมายถึงพี่ ๆ ที่อยู่ตรงนี้ทุกคนด้วยที่ซัพพอร์ตเราตั้งแต่วันแรกที่ผมพูดถึงความสัมพันธ์ที่มันเกินกว่าคำว่าพี่น้อง ซึ่งพี่เขาก็บอกผมตลอดว่ารู้สึกดีมาก ๆ เลยเวลามาสัมภาษณ์แล้วทุกคนซัพพอร์ตเราสองคนแบบนี้ แล้วที่เห็นพี่เขาร้องไห้วันนี้ คือเพราะเป็นเรื่องลบ ๆ พี่เขาจะเก็บเก่งมาก แต่พอเป็นเรื่องบวก ๆ พี่เขาจะแสดงออกมาเลย”
นอกจากเรื่องความสัมพันธ์ ทั้งคู่ยังได้พูดถึงกระแสตอบรับหนังสั้นที่ นนกุล เป็นผู้กำกับและ แอฟ ได้แสดงบทบาทสุดท้าทาย ซึ่งสร้างความตกใจให้กับผู้ชมจำนวนมาก นนกุล เล่าที่มาว่า “มันเกิดขึ้นจากที่เราอยู่กันสองคนแล้วผมก็พูดขึ้นมาเล่น ๆ ถ้าผมจะลองกำกับดูพี่จะเล่นให้ผมไหม แล้วพี่เขาก็แบบ…เอาสิ ประกอบกับผมชอบไถดูซีนในยูทูบที่ตัดมาจากหนังอีกที แล้วเรารู้สึกว่าซีนนี้มันน่าสนุกดีเลยเอาให้พี่เขาดูแล้วก็ถามว่า ถ้าเกิดลองเล่นแบบหยาบ ๆ ดูเลย พี่โอเคไหม?”
“ตอนแรกผมไม่ได้คิดว่าจะหยาบอะไรมากหรอก มันก็ปรับได้ แต่พี่เขาบอกว่าก็น่าสนุกดีอยากลอง เลยตามที่ทุกคนเห็นครับ คือผมไม่เคยเห็นพี่เขาพูดมาก่อน ครั้งแรกที่ได้ยินพี่เขาพูดออกมายอมรับว่าเขินเหมือนกัน แต่ก็บอกว่าไม่เป็นไรพูดกับผมช่างมันเถอะ แล้วก็ให้พี่เขาพูดซ้ำไปเรื่อยๆ จนผมเริ่มชินหู” นนกุล กล่าวต่อ
ด้าน แอฟ อธิบายถึงเหตุผลที่ตัดสินใจรับบทนี้ว่า “จุดที่ทำให้แอฟตัดสินใจเล่น มันไม่ใช่เป็นเพราะนน แต่มันเป็นเพราะเรารักในงานแสดง ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเราก็จะได้รับบทในประมาณหนึ่ง ซึ่งมันก็ยังมีอีกหลายแง่มุมที่เราอยากทำงานที่เรารักในจังหวะที่เรายังมีโอกาสอยู่ ในบทที่รู้สึกว่ามันท้าทายกับตัวเรา ได้ก้าวข้ามผ่านกำแพงอะไรบางอย่าง แอฟไม่อยากให้ไปโฟกัสแค่เรื่องของคำหยาบ โอเคการที่ใช้ภาษาแบบนี้มันเป็นความยากสำหรับเรา แต่นอกนั้นคือเรื่องความยากของบท การที่มีอารมณ์หลากหลายในฉากฉากเดียว การถ่ายลองเทก สิ่งเหล่านี้สำหรับแอฟมันยากเรื่องภาษาค่ะ”
สำหรับกระแสตอบรับจากผู้ชม หลายคนถึงกับบอกว่าเป็นบุญหูที่ได้ยิน แอฟ พูดคำเหล่านั้น ซึ่งเธอตอบติดตลกพร้อมหัวเราะว่า “ก็แค่นั้นแหละค่ะ แค่สิบนาทีนั้นค่ะ” ก่อนจะเสริมในมุมมองที่ลึกซึ้งว่า “ก็มีหลายคอมเมนต์ที่เข้ามาบอกว่าเขาเองก็เคยเจอเหตุการณ์นี้ในชีวิต ซึ่งอันนี้มันอาจจะเป็นดีเทลลึก ๆ ของแอฟว่าอย่างน้อยตัวละครที่เราสวมบทเขาไม่ได้ไปทำร้ายใครคนอื่น แต่มันคือคู่ชีวิตคือพ่อของลูก เขาไม่แม้แต่จะไปแตะผู้หญิงอีกคนนึงด้วยซ้ำ”
ปิดท้ายด้วยคำถามชวนอมยิ้มว่า มีคนเข้ามาขอให้พูดคำหยาบให้ฟังสด ๆ ไหม แอฟ ตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “มีนะคะ ไม่ได้เชิงว่าพูดให้ฟังหน่อย แต่จะประมาณว่า ช่วยว่าหนูหน่อย แต่พอนอกบทแล้วเราก็คิดไม่ได้ไง”