นักวิชาการชำแหละ ‘พรรคประชาชน’: ด้อมส้มอันตราย-ปัญหาภายในเพียบ จี้ปรับปรุงก่อนเป็น ‘เพื่อไทย 2’

นายวรา จันทร์มณี นักวิชาการอิสระ ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย แสดงความเห็นเชิงวิพากษ์วิจารณ์พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งหมายถึง ‘พรรคประชาชน’ หรือที่ประชาชนทั่วไปรู้จักในนามพรรคสีส้ม โดยชี้ให้เห็นถึงประเด็นที่น่ากังวลหลายอย่าง ทั้งเรื่องของกลุ่มผู้สนับสนุน (ด้อม) และปัญหาการบริหารจัดการภายในพรรค

นายวรา ระบุว่า รู้สึกตะหงิดใจกับการนำคำว่า ‘ด้อม’ ซึ่งเดิมใช้กับแฟนคลับศิลปิน มาใช้กับผู้สนับสนุนพรรคการเมือง เพราะความหมายเดิมเน้นการชื่นชม สนับสนุน แต่เมื่อนำมาใช้กับการเมือง กลับมีความอันตรายแฝงอยู่คือ ศรัทธาจนคลั่งไคล้ ลืมตรวจสอบ ตั้งคำถาม และไม่ยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นหนทางนำไปสู่ความเสื่อม คนจำนวนมากไม่กล้าวิจารณ์พรรคประชาชน เพราะกลัวถูก ‘ด้อมส้ม’ โจมตี แต่เหตุผลที่แท้จริงอาจลึกซึ้งกว่านั้น เช่น กลัวพรรคที่รักเสียความน่าเชื่อถือ

นายวรา ย้ำว่า หากประชาชนไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์พรรคการเมืองที่อาสามาทำงานแทน ก็เท่ากับเป็นการให้ท้าย ทำให้พรรคประชาชนมีอภิสิทธิ์ ไม่ต่างจากพรรคการเมืองเก่า หรือกำลังทำให้พรรคกลายเป็น ‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แตะต้องไม่ได้’ ซึ่งเป็นอันตรายต่อการพัฒนาทั้งภายในพรรคและการพัฒนาทางการเมืองโดยรวม

สำหรับกรณี ส.ส.กฤษฎิ์ ที่ย้ายพรรค นายวรา เห็นว่าสมควรถูกประณามและลงโทษทางสังคม เป็นมาตรฐานว่านักการเมืองไม่ควรทรยศประชาชนที่เลือกเข้ามาเพราะศรัทธาในตัวพรรคเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การที่ประชาชนศรัทธา ไม่ได้หมายความว่านักการเมืองหรือพรรคจะทำอะไรก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงพันธะสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน

นายวรา ยังชี้ให้เห็นถึงประเด็นที่คนจำนวนมากรู้สึกอึดอัดที่ต้องเลือกพรรคประชาชน เพราะมองว่าไม่มีทางเลือกที่ดีกว่า ทำให้ ‘บางคน’ ในพรรคมั่นใจ ย่ามใจ ว่าตนเองถูกต้อง จนหลงลืมกาละเทศะ ไม่ให้เกียรติผู้อื่น เพียงเพราะสวมหมวกของพรรค โดยมองคำว่า ‘คนเท่ากัน’ ผิดเพี้ยนไปจากการเห็นแก่ประโยชน์สาธารณะ กลายเป็นการเห็นแก่ประโยชน์ตนเองหรือพวกพ้อง

นอกจากนี้ ยังมีข้อสังเกตเรื่องนโยบาย เช่น นโยบายประมง ที่ดูเหมือนจะเอนเอียงให้ความสำคัญกับประมงพาณิชย์ทางภาคตะวันออกมากกว่าชาวประมงภาคอื่นๆ หรือประโยชน์ของคนทั้งประเทศ ซึ่งตั้งคำถามว่า เหตุใดในกรณีนี้ ‘คนไม่เท่ากันแล้วล่ะ’?

นายวรา ยังกล่าวถึงข้อสังเกตต่อ ‘ด้อมส้ม’ ในบางกรณี เช่น กรณีมาตรา 69 ที่ดูเหมือนจะเงียบฉี่ อาจเพราะไม่เข้าใจรายละเอียด หรือไม่ต้องการวิจารณ์ให้พรรคเสียหาย ซึ่งอาการรักพรรคจนไม่กล้าวิจารณ์ ก็ไม่ต่างจากพรรคอื่น แล้วอุดมการณ์ทางการเมืองอยู่ตรงไหน?

จากการซักถามผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม นายวรา ได้สรุปประเด็นที่พรรคประชาชนต้องปรับปรุง ดังนี้:

  • การบริหารจัดการตรงกลางของเลขาพรรค: ขยันแต่ยังไม่เก่ง ต้องรับฟังและนำไปสู่การปฏิบัติจริง
  • ปัญหาความโปร่งใสและความเป็นธรรมในการคัดเลือกบุคลากร: มีปัญหาตั้งแต่กระบวนการสรรหา ส.ส. หรือผู้สมัคร ไม่ให้ความสำคัญคนเก่า หรือคนเก่ากีดกันคนใหม่ คนมี ‘อาชีพการเมือง’ ได้เปรียบในการแย่งชิงตำแหน่ง
  • กรรมการระดับจังหวัดหรือพื้นที่ยังไร้ประสิทธิภาพ: ขาดความรู้ความเข้าใจ ต้องมีกลไกแก้ไขอย่างจริงจัง
  • คนในพรรคไม่เป็นมิตรกับคนใหม่ (new entry): ไม่มีน้ำใจ ขาดมนุษยสัมพันธ์ หวงพื้นที่ หากไม่มีวัฒนธรรมใจกว้าง จะสร้างปัญหาระยะยาว
  • ผู้สมัคร/ส.ส. อ่อนในการลงพื้นที่: ขาดการรับฟัง ผูกมิตร ปรึกษาหารือ บางคนอัตตาสูง คิดว่าหน้าที่คือในสภาฯ เท่านั้น เน้น propaganda สร้างภาพลักษณ์ อ่อนงานมวลชนสัมพันธ์ สับสนระหว่างการเป็นผู้แทนราษฎรกับเซเลบ แสดงออกนอกเรื่องส่วนตัวไม่เหมาะสม

นายวรา ทิ้งท้ายว่า ประชาชนจำนวนมากรอให้พรรคประชาชนพัฒนาเป็นสถาบันการเมืองที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่พรรคของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จึงไม่ควรดูเบาการขัดเกลาปรับปรุงตนเอง อย่าหลงไปกับกระแสความนิยมจนคิดว่าทำอะไรก็ได้ ประชาชนเองก็ไม่ควรรักจนหลง ละเว้นการวิจารณ์ เพื่อไม่ให้พรรคประชาชนกลายเป็น ‘พรรคเพื่อไทย 2’ ที่อาจผิดคำพูดเมื่อมีอำนาจ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นคงน่าชอกช้ำใจอย่างยิ่ง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *