เร่งสอบ ‘ฮั้ว สว.’ หมายเรียกพุ่งเกิน 140 ราย ดีเอสไอขยายผลฟัน ‘บิ๊กเนม’ การเมือง ชี้ทำงานอิสระ แม้ ‘รมว.ยุติธรรม’ ถูกพักงาน

ความคืบหน้าล่าสุดของการสอบสวนคดีฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขณะนี้กำลังเดินหน้าอย่างเข้มข้น โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ซึ่งทำงานร่วมกันระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทยอยออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว มากกว่า 140 ราย

รายงานระบุว่า บุคคลที่ถูกออกหมายเรียกนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะ สว. ที่อยู่ในข่ายถูกกล่าวหาตามจำนวนที่ทราบกันก่อนหน้านี้ แต่การสอบสวนได้ขยายผลไปถึงบุคคลภายนอกที่พยานหลักฐานพาดพิงว่ามีส่วนร่วมในขบวนการนี้ โดยเชื่อว่าเป็นระดับ ‘หัวขบวน’ ซึ่งรวมถึงนักการเมืองระดับรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ไปจนถึงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวออกมาว่าอาจมีนักการเมืองระดับ ‘บิ๊กเนม’ ที่อยู่ในข่ายการสอบสวนนี้ด้วย

คดีนี้แบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ในความรับผิดชอบของ กกต. คือการดำเนินการตามความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนดาบที่สอง ซึ่งเป็นคดีอาญา อยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ โดยคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการอยู่ มีทั้งข้อหาฟอกเงิน ซึ่งเกี่ยวโยงกับการจ่ายเงินในกระบวนการฮั้ว และข้อหาอั้งยี่ ซึ่งเกี่ยวกับการรวมกลุ่มขบวนการเพื่อฮั้วการเลือก สว.

คาดว่า หลังจากที่คดีในส่วนของ กกต. มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อ สว. และผู้ที่เป็น ‘หัวขบวน’ ครบถ้วนแล้ว คดีในส่วนของดีเอสไอ ก็คงจะได้ฤกษ์แจ้งข้อหาต่อผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ระหว่างนี้ ทีมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษของดีเอสไอกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานอย่างเต็มที่ รายงานข่าวระบุว่าการทำงานของดีเอสไอเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด แม้ว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะไม่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอแล้ว เป็นไปตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ

ดังที่ พ.ต.อ.ทวี เคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การที่ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของการดูแลดีเอสไอ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของดีเอสไอ เพราะดีเอสไอทำงานโดยอิสระมาโดยตลอด การเมืองไม่ได้เข้าไปแทรกแซง

ประเด็นนี้ถูกมองว่า ยิ่งไม่มี พ.ต.อ.ทวีกำกับดูแลดีเอสไอ ยิ่งทำให้ทุกฝ่ายสบายใจว่า คดีเป็นไปตามพยานหลักฐานอย่างแท้จริง ดังนั้น หากดีเอสไอยังคงเดินหน้าทำคดีอย่างถึงไหนถึงกัน ในขณะที่รัฐมนตรีผู้กำกับดูแลถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จะยิ่งเป็นการรองรับว่า ดีเอสไอเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่อย่างอิสระ ปราศจากการชี้นำของการเมือง

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า พฤติการณ์ของขบวนการฮั้ว สว. นั้นมีพยานหลักฐานมากมาย จนประชาชนทั่วไปก็สามารถมองเห็นได้ ทั้งโพยฮั้ว รูปแบบการแต่งกาย การเดินทางเป็นหมู่คณะ ซึ่งมีข้อมูลและภาพปรากฏเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง มาตั้งแต่หลังวันเลือก สว. ระดับประเทศ เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ดังนั้น การที่เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายดำเนินการตามหน้าที่ จึงเป็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏชัดเจน.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *