ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก ‘เสก โลโซ’ 2 ปี 12 เดือน 20 วัน สิ้นสุดคดีดังปี 60

ศาลฎีกา พิพากษาจำคุก ‘เสก โลโซ’ 2 ปี 12 เดือน 20 วัน สิ้นสุดคดีดังปี 60

กรุงเทพมหานคร – ที่ศาลมีนบุรี เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้อง นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ ‘เสก โลโซ’ ร็อกสตาร์ชื่อดัง โดยมีคำสั่งแก้โทษจำคุกจำเลย เป็นเวลา 2 ปี 12 เดือน 20 วัน ถือเป็นการสิ้นสุดกระบวนการยุติธรรมในคดีที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2560 และคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง.

คดีนี้มีจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เมื่อพล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น คือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าไปที่บ้านพักของนายเสกสรรค์ ย่านคันนายาว เพื่อควบคุมตัวจากคดีที่นายเสกสรรค์ ก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าภายในวัดเขาขุนพนม จังหวัดนครศรีธรรมราช.

ระหว่างการเข้าควบคุมตัวที่บ้านพัก นายเสกสรรค์ ได้แสดงท่าทีขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจพบยาเสพติดในบ้านพักของเขาด้วย จึงเป็นที่มาของการถูกดำเนินคดีในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ และเสพยาเสพติด นอกเหนือจากคดีอาวุธปืนฯ จากเหตุการณ์ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช.

สำหรับคดีความที่เกี่ยวข้องนั้น มีการพิจารณาแยกกันในหลายศาล โดยศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชมีคำพิพากษาในคดียิงปืนขึ้นฟ้า ให้จำคุก 5 วัน ปรับ 2,500 บาท และให้รอลงอาญา 2 ปี.

ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ขัดขวางและยาเสพติด ซึ่งเกิดขึ้นที่บ้านพักย่านคันนายาวนั้น ศาลอาญามีนบุรีในศาลชั้นต้น ได้มีคำพิพากษาโดยรวมโทษของนายเสกสรรค์ในคดีทำร้ายร่างกายอดีตคนสนิทของภรรยา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2559 เข้าไปด้วย โดยคดีทำร้ายร่างกายนั้นศาลเคยพิพากษาจำคุก 1 ปี 3 เดือน ปรับ 4,000 บาท และรอลงอาญา 2 ปี.

ศาลอาญามีนบุรีในศาลชั้นต้นจึงพิพากษาให้จำคุกนายเสกสรรค์ในคดีต่อสู้ขัดขวางและยาเสพติด และให้นับโทษต่อจากคดีอาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอลงอาญา.

ต่อมา ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาแก้โทษของนายเสกสรรค์ โดยแก้เป็นจำคุก 2 ปี 18 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และยกคำขอให้นับโทษต่อจากคดีที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้โทษที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาจึงเป็น 2 ปี 18 เดือนตามที่แก้ นอกจากที่แก้แล้วให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

มาถึงวันนี้ ศาลฎีกาได้พิจารณาและมีคำพิพากษาเป็นที่สุด โดยแก้โทษจำคุกจำเลยเป็น 2 ปี 12 เดือน 20 วัน ซึ่งเป็นบทสรุปทางกฎหมายสำหรับคดีความทั้งหมดนี้.

คำพิพากษาของศาลฎีกาในวันนี้ถือเป็นการสิ้นสุดกระบวนการพิจารณาในชั้นสูงสุด ส่งผลให้นายเสกสรรค์ ศุขพิมาย ต้องรับโทษตามคำพิพากษาดังกล่าว.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *