กองกำลังกะเหรี่ยง KNLA-KNDO ยึดค่าย ‘มอโพเก้’ ริมชายแดนไทย-เมียนมา ยึดอาวุธหนักเพียบ ทหารเมียนมา 27 นายหนีข้ามแดนเข้าไทย

ตาก – กองกำลังกะเหรี่ยง KNLA และ KNDO โจมตีหนักตลอดคืนที่ผ่านมา สามารถเข้ายึดค่ายทหารเมียนมา ‘มอโพเก้’ พัน.ร. 24 ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ได้อย่างเบ็ดเสร็จในเช้าวันนี้ (20 พ.ค.68) หลังจากการสู้รบดุเดือด ส่งผลให้ทหารเมียนมาแตกพ่ายหนีตายไปคนละทิศละทาง โดยมีทหารเมียนมาอย่างน้อย 27 นายหนีข้ามแม่น้ำเมยเข้ามายังฝั่งไทย พร้อมยึดอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ขณะที่มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภส.) อพยพเข้าไทยเพิ่มกว่า 240 คน

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้ามบ้านแม่ต้าน ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 พ.ค.68) กองกำลังทหารกะเหรี่ยงของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) คือ กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) และกองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNDO) ได้นำกำลังเข้าโจมตีที่ตั้งทางทหารของกองทัพเมียนมา ในสังกัดกองพันทหารราบที่ 24 (พัน.ร. 24) ซึ่งตั้งอยู่ที่ค่ายมอโพเก้ บ้านจอเกทะ อำเภอแลงปอย จังหวัดผาอัน รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา โดยค่ายแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทยประมาณ 500 เมตร

การโจมตีดำเนินไปอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งคืน โดยฝ่ายกองกำลังกะเหรี่ยงใช้ยุทธวิธีเข้ากดดันและโจมตีอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในเช้าวันนี้ (20 พ.ค.68) เวลาประมาณ 07.00 น. กองกำลังกะเหรี่ยงสามารถเข้ายึดพื้นที่ค่ายทหารเมียนมาที่มอโพเก้ได้สำเร็จอย่างเบ็ดเสร็จ ทำให้ทหารเมียนมาในค่ายต้องแตกพ่ายหนีเอาชีวิตรอดไปคนละทาง

แหล่งข่าวจากกองกำลังกะเหรี่ยงเปิดเผยว่า การยึดค่ายมอโพเก้ครั้งนี้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นค่ายทหารขนาดใหญ่และเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกองทัพเมียนมาในพื้นที่นี้ ภายในค่ายมีฐานปืนครกขนาด 81 มม. และยุทโธปกรณ์จำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดถูกกองกำลังกะเหรี่ยงเข้าควบคุมและยึดไว้ได้ทั้งหมดแล้ว

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ระหว่างการเข้ายึดพื้นที่ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีทหารเมียนมาในค่ายมอโพเก้จำนวน 27 นาย ได้หนีการสู้รบข้ามแม่น้ำเมยเข้ามายังเขตแดนประเทศไทย ซึ่งทางกองกำลังราชมนู อำเภอแม่สอด และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ชายแดนเพื่อเฝ้าระวังและดำเนินการตามมาตรการด้านความมั่นคงและมนุษยธรรม

นอกจากนี้ สถานการณ์การสู้รบยังส่งผลกระทบต่อพลเรือนในพื้นที่ โดยมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภส.) จำนวน 241 คน ได้อพยพข้ามแม่น้ำเมยเข้ามายังฝั่งไทยเพื่อความปลอดภัยชั่วคราว ขณะนี้ทั้งหมดพักพิงอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่จัดเตรียมไว้ ณ วัดอรัญญาวาส หมู่ที่ 1 ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก โดยหน่วยงานความมั่นคงของไทย อาทิ หน่วยเฉพาะกิจราชมนู, หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35, กองกำลังนเรศวร และหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าสองยาง และฝ่ายปกครองอำเภอท่าสองยาง ได้เข้าดูแลรักษาความปลอดภัยและให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามหลักสากล

สำหรับยุทโธปกรณ์ที่ฝ่ายกองกำลังกะเหรี่ยงสามารถยึดได้จากค่ายมอโพเก้ ประกอบด้วย ปืนเล็กยาวจำนวน 24 กระบอก, ปืนพกจำนวน 1 กระบอก, ปืนครกขนาด 60 มม. จำนวน 1 กระบอก, ซองกระสุนขนาด 5.56 มม. จำนวน 60 ซอง, ซองกระสุนปืนพกจำนวน 1 ซอง และที่สำคัญคือปืนครกขนาด 81 มม. ซึ่งเป็นอาวุธหนักประจำค่าย

สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยทางการไทยยังคงตรึงกำลังในพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและให้ความช่วยเหลือประชาชนทั้งสองฝ่าย

ที่มา: มติชน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *