กรุงเทพฯ – เมื่อเวลา 14.35 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 พรรคภูมิใจไทย โดย น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคฯ ได้ออกมาแถลงข่าวตอบโต้กรณีที่ น.ส.กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้แถลงข่าวกล่าวหาเชื่อมโยงหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรคภูมิใจไทย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วการเลือก สว. เมื่อปี 2567 ซึ่งทำให้พรรคภูมิใจไทยได้รับความเสียหายอย่างยิ่ง

น.ส.แนน บุณย์ธิดา กล่าวอย่างหนักแน่นว่า จากการกล่าวหาดังกล่าว ทางพรรคภูมิใจไทยมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาปกป้องตนเองและชื่อเสียงของพรรค โดยจะดำเนินการผ่านช่องทางกระบวนการยุติธรรม ซึ่งฝ่ายกฎหมายของพรรคจะรับหน้าที่ในการดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับ น.ส.กุสุมาลวตี ศิริโกมุท และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใส่ร้ายและบิดเบือนข้อมูลในครั้งนี้

“วันนี้พรรคภูมิใจไทย จำเป็นต้องออกมาปกป้องตนเอง จากการใส่ร้ายบิดเบือน จากฝ่ายการเมืองผู้ไม่หวังดี ที่ดูเหมือนว่ามีเจตนาพิเศษ จ้องจะทำลายพรรคภูมิใจไทย” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าวย้ำถึงเจตนาที่อยู่เบื้องหลังการกล่าวหา

น.ส.แนน บุณย์ธิดา ยังได้กล่าวเน้นย้ำสถานะของพรรคภูมิใจไทยว่าเป็นสถาบันทางการเมืองที่สำคัญในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และชี้แจงถึงแนวทางการทำงานของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ซึ่งมุ่งเน้นการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติมาโดยตลอด

ด้วยเหตุนี้ พรรคภูมิใจไทยจึงขอใช้สิทธิตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ในการดำเนินการทางกฎหมายต่อน.ส.กุสุมาลวตี รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ได้กระทำการให้ร้าย ใส่ความ และสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของพรรคภูมิใจไทยและบุคลากรภายในพรรค โดยจะดำเนินการให้ถึงที่สุด

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวที่ น.ส.กุสุมาลวตี ได้ออกมาแถลงข่าว พร้อมระบุว่ามีหลักฐานที่เชื่อได้ว่ามีการฮั้วการเลือก สว. และพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทย รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายไชยชนก ชิดชอบ ซึ่งคาดว่าเป็นเลขาธิการพรรคฯ นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการที่ น.ส.กุสุมาลวตี พร้อมคณะ ได้เข้ายื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรคภูมิใจไทย จากกรณีดังกล่าวด้วย ซึ่งนายอนุทินเองก็ได้ออกมาตอบโต้ข่าวการกล่าวหา โดยระบุว่า น.ส.กุสุมาลวตี โกหกทุกเรื่อง และไม่ให้ราคาต่อการกล่าวหาดังกล่าว

การตัดสินใจฟ้องร้องในครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับการตอบโต้จากพรรคภูมิใจไทย เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และปกป้องชื่อเสียงของพรรคจากการถูกกล่าวหา ซึ่งประเด็นนี้คาดว่าจะนำไปสู่การต่อสู้ทางกฎหมายและการเมืองที่เข้มข้นต่อไป