กรุงเทพฯ – ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ [ใส่วันที่ปัจจุบัน] มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงินรวมไม่เกิน 3,780,600 ล้านบาท หรือประมาณ 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งผ่านการตรวจพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว โดยเตรียมเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณ (สงป.) เสนอ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 นี้ ถูกจัดทำขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล และบริหารราชการแผ่นดินให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ โดยได้มีการจำแนกประเภทรายจ่ายออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ อย่างชัดเจน

การจำแนกตามกลุ่มงบประมาณ:

• รายจ่ายงบกลาง เป็นจำนวนเงิน 632,968.7500 ล้านบาท (คิดเป็น 16.74%)
• รายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ เป็นจำนวนเงิน 1,408,060.3287 ล้านบาท (คิดเป็น 37.25%)
• รายจ่ายบูรณาการ เป็นจำนวนเงิน 98,767.8186 ล้านบาท (คิดเป็น 2.61%)
• รายจ่ายบุคลากร เป็นจำนวนเงิน 820,820.8104 ล้านบาท (คิดเป็น 21.71%)
• รายจ่ายสำหรับทุนหมุนเวียน เป็นจำนวนเงิน 274,576.8057 ล้านบาท (คิดเป็น 7.26%)
• รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ เป็นจำนวนเงิน 421,864.4264 ล้านบาท (คิดเป็น 11.16%)
• รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง เป็นจำนวนเงิน 123,541.0602 ล้านบาท (คิดเป็น 3.27%)

การจำแนกตามยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณ:

สำหรับงบประมาณปี 2569 ยังได้จำแนกตาม 6 ยุทธศาสตร์หลัก และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ ดังนี้

• ด้านความมั่นคง: 415,327.9413 ล้านบาท
• ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน: 394,611.6456 ล้านบาท
• ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์: 605,927.2575 ล้านบาท
• ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม: 942,709.1735 ล้านบาท
• ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: 147,216.8998 ล้านบาท
• ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ: 605,441.5957 ล้านบาท
• รายการค่าดำเนินการภาครัฐ (ซึ่งรวมอยู่ในยอดรวม แต่แยกตามประเภทในกลุ่มงบประมาณ): (ตัวเลขรวมอยู่แล้วในหมวดอื่นๆ ไม่ได้แยกจำนวนนี้ออกมาต่างหากในเอกสารต้นฉบับ)

ในส่วนของปฏิทินงบประมาณ นายจิรายุกล่าวว่า ได้กำหนดให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่ 1 ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2568 หลังจากนั้น จะเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 (พิจารณารายมาตรา) และวาระที่ 3 (ลงมติ) ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ได้ทันในเดือนตุลาคม 2568 เพื่อให้มีผลบังคับใช้สำหรับปีงบประมาณ 2569 ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2568.