ลิเบียผงะซ้ำ! – กระทรวงกิจการภายในของลิเบีย เปิดเผยเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถึงการค้นพบที่น่าตกใจอีกครั้ง เมื่อพบศพนิรนามจำนวนอย่างน้อย 58 ศพ อยู่ในตู้แช่ศพของโรงพยาบาลอาบู ซาลิม แอคซิเดนส์ ในกรุงตริโปลี เมืองหลวงของประเทศ ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของ กองกำลังติดอาวุธเอสเอสเอ (Stabilisation Support Apparatus) หรือ SSA

แถลงการณ์จากกระทรวงฯ ระบุว่า ศพส่วนใหญ่มีสภาพเน่าเปื่อย และบางรายถูกเผา ซึ่งทำให้การระบุตัวตนเป็นไปได้ยาก เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการสอบสวนเพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิต โดยในเบื้องต้นได้ตรวจสอบศพไปแล้ว 23 ศพ และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายที่จำเป็นทั้งหมด รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลและเก็บตัวอย่างเพื่อใช้ในการสืบสวน

การค้นพบศพนิรนามชุดล่าสุดนี้ ถือเป็นครั้งที่สองในรอบไม่กี่วันที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เพิ่งพบร่างผู้เสียชีวิต 9 รายในลักษณะเดียวกัน ภายในตู้แช่ศพของโรงพยาบาลอัล-คาดรา ซึ่งเป็นอีกโรงพยาบาลหนึ่งที่ตั้งอยู่ในย่านอาบู ซาลิม และอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่ม SSA เช่นกัน สิ่งที่น่ากังวลคือ ในทั้งสองกรณีนี้ ไม่มีรายงานการแจ้งความหรือการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับศพเหล่านี้ต่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด

เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นภายหลังจากความรุนแรงที่ปะทุขึ้นในกรุงตริโปลีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีชนวนมาจากการสังหารนายอับดุลกานี คิกลี ผู้นำกลุ่ม SSA ซึ่งนำไปสู่ความพ่ายแพ้ของกลุ่ม SSA ต่อฝ่ายรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติลิเบีย (Government of National Unity – GNU) หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีอับดุลฮามิด อัล-เบบาห์ ผู้นำรัฐบาลเอกภาพ ได้มีคำสั่งให้ยุบกลุ่ม SSA ส่งผลให้เกิดการปะทะอย่างหนักในกรุงตริโปลี ถือเป็นการปะทะรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี และทำให้มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตไปอย่างน้อย 8 ราย

สถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียยังคงเป็นปัญหาเรื้อรังนับตั้งแต่เหตุการณ์การลุกฮือในปี 2554 ซึ่งนำไปสู่การโค่นล้ม พันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำเผด็จการที่ปกครองประเทศมายาวนาน หลังจากนั้น ลิเบียได้แตกแยกออกเป็นสองฝ่ายหลัก คือฝ่ายตะวันออกและฝ่ายตะวันตกตั้งแต่ปี 2557 แม้ว่าจะมีการหยุดยิงครั้งใหญ่ในปี 2563 และจัดตั้งรัฐบาลร่วมเฉพาะกาลขึ้นในปี 2564 สถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะเมืองหลวง ยังคงเปราะบาง และการปะทะระหว่างกลุ่มติดอาวุธต่างๆ ยังคงเกิดขึ้นเป็นระยะ