ปักกิ่ง, จีน – แพทย์เตือนภัยถึงความเสี่ยงในการบริโภคสัตว์ปีกที่ไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง หลังเกิดเคสอุทาหรณ์สุดช็อกที่ประเทศจีน เมื่อสาววัย 30 ปีรายหนึ่งต้องเข้ารับการรักษาด่วนด้วยอาการไอเรื้อรัง ก่อนจะตรวจพบว่าปอดของเธอติดเชื้อราอย่างรุนแรงจนลุกลามไปทั่วทั้งสองข้าง และเชื่อมโยงไปถึงการทานซุปนกพิราบ

รายงานข่าวระบุว่า หญิงสาวชาวจีนรายนี้มีอาการไอแห้งติดต่อกันเป็นเวลานาน สร้างความกังวลจนต้องไปพบแพทย์ เมื่อแพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) บริเวณทรวงอก ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าปอดทั้งสองข้างของเธอมีการติดเชื้อราในตระกูล Cryptococcus ซึ่งเป็นเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจได้ และกำลังลุกลามอย่างหนัก ทำให้เธอถูกส่งตัวต่อไปยังแผนกโรคระบบทางเดินหายใจและปอดเพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน

ทีมแพทย์ผู้ดูแลได้เริ่มทำการสอบสวนประวัติคนไข้อย่างละเอียด โดยเฉพาะการสอบถามถึงการสัมผัสใกล้ชิดกับนกหรือสัตว์ปีก ซึ่งในตอนแรกคนไข้ปฏิเสธว่าไม่มีประวัติการสัมผัสใดๆ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุด แพทย์จึงดำเนินการตรวจเพิ่มเติมอย่างครอบคลุม ทั้งการเจาะเลือดเพื่อหาแอนติเจนของเชื้อ Cryptococcus รวมถึงการส่องกล้องหลอดลมแบบพิเศษเพื่อเก็บน้ำล้างปอดไปตรวจหาแอนติเจนและการตรวจพันธุกรรมแบบ tNGS (targeted Next-Generation Sequencing) ซึ่งเป็นการตรวจหาเชื้อแบบละเอียดถึงระดับพันธุกรรม

ผลการตรวจที่ออกมาสร้างความประหลาดใจปนความกังวล เมื่อพบแอนติเจนของเชื้อ Cryptococcus ทั้งในเลือดและในน้ำล้างปอด นอกจากนี้ วิธีการตรวจแบบ tNGS ยังสามารถตรวจพบเชื้อราชนิดใหม่ที่อยู่ในตระกูล Cryptococcus ด้วย จากผลการตรวจเหล่านี้ แพทย์จึงสามารถวินิจฉัยได้อย่างชัดเจนว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็น โรคปอดอักเสบจากเชื้อ Cryptococcus ชนิดใหม่

ภายหลังจากที่คนไข้ได้ทราบผลการวินิจฉัยที่ชัดเจน เธอก็นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ และเพิ่งจำได้ว่า ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มมีอาการ เพื่อนของเธอได้ให้นกพิราบมาตัวหนึ่ง และเธอได้นำนกพิราบตัวนั้นมาทำเป็นซุปเพื่อรับประทาน แพทย์จึงได้ข้อสรุปที่น่าตกใจว่า การติดเชื้อ Cryptococcus ชนิดใหม่ของผู้ป่วยรายนี้มีความเกี่ยวข้องกับการบริโภคนกพิราบโดยตรง ถือเป็นเคสที่ค่อนข้างผิดปกติ เนื่องจากเชื้อ Cryptococcus มักแพร่เข้าสู่ร่างกายมนุษย์จากการหายใจเอาสปอร์ที่ปนเปื้อนในอากาศเข้าไป ไม่ใช่จากการรับประทาน

ทีมแพทย์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชื้อ Cryptococcus ว่า เป็นเชื้อราที่พบได้ทั่วไปในธรรมชาติ โดยเฉพาะในมูลนกพิราบ ดิน และซากพืชที่เน่าเปื่อย การแพร่เชื้อสู่มนุษย์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการสูดดมสปอร์ของเชื้อที่ฟุ้งกระจายในอากาศ ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อและแสดงอาการป่วย ได้แก่ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยโรคเอดส์ ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด หรือผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ รวมถึงผู้ที่มีอาชีพหรือกิจกรรมที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับนกพิราบหรือพื้นที่ที่มีมูลนกพิราบจำนวนมาก

ในระยะแรก ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ Cryptococcus ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ หรืออาจมีอาการเพียงเล็กน้อยคล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น ไอ มีไข้ต่ำๆ หรือเจ็บหน้าอก ซึ่งมักถูกมองข้ามไป แต่ในรายที่อาการรุนแรง อาจมีไข้สูง หายใจลำบาก และไอเป็นเลือดได้

แพทย์ย้ำเตือนถึงอันตรายของโรคนี้ว่า หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที เชื้อราสามารถลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ได้ โดยผู้ป่วยประมาณ 10% อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง คือ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต และในกรณีที่ไม่ได้รับการรักษา อัตราการเสียชีวิตอาจพุ่งสูงถึง 60-80% โชคดีที่ผู้ป่วยชาวจีนรายนี้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว ทำให้มีโอกาสในการฟื้นตัวสูง

เคสนี้จึงเป็นอุทาหรณ์สำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการระมัดระวังการบริโภคสัตว์ปีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือสัตว์ปีกที่ไม่ได้เลี้ยงในระบบฟาร์มมาตรฐาน และควรปรุงสุกอย่างทั่วถึงเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการได้รับเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจแฝงอยู่