อนุทิน ชี้คดี ‘ฮั้ว สว.’ เป็นเรื่องการเมือง ยันภูมิใจไทยไม่เกี่ยว สั่งห้ามยุ่งตั้งแต่แรก

ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แจ้งข้อกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการ ‘ฮั้ว’ การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งมีชื่อของสมาชิกพรรคภูมิใจไทยบางส่วนถูกพาดพิง

นายอนุทินยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับพรรค เนื่องจากสมาชิกที่ถูกกล่าวถึงได้ให้สัมภาษณ์ชี้แจงไปแล้ว และมองว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ถูก ‘คิดกันไปเอง’

เมื่อถูกถามถึงการมองว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ นายอนุทินแสดงความเห็นในฐานะประชาชนคนหนึ่งว่า ตนเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างแน่นอน และเชื่อเช่นนี้มาเป็นเวลานานแล้ว โดยมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ‘ไร้สาระ’ และ ‘เสียเวลาทำงานให้กับประชาชน’ อย่างยิ่ง

สำหรับข้อสงสัยว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทยจริงหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวอย่างชัดเจนว่า ไม่ต้องการอะไรจากพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคไม่ได้ทำผิด และพรรคไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับ สว. โดยเน้นย้ำว่าสื่อมวลชนอาจไม่เคยได้พูดถึง ‘ประกาศของหัวหน้าพรรค’ ที่ตนได้ลงนามไว้เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ซึ่งมีเนื้อหาชัดเจนว่า ‘ห้ามสมาชิกพรรค ส.ส. และบุคลากรในพรรคทุกคน ห้ามข้องเกี่ยวกับกระบวนการเลือก สว. อย่างเด็ดขาด’

นายอนุทินเรียกร้องให้มีความเป็นธรรมในการนำเสนอข่าว โดยขอให้นำเรื่องที่ตนได้ประกาศอย่างชัดเจนไปพูดถึงบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เรื่องของคนอื่นมาพูดถึงพรรคตนเอง พร้อมทั้งกล่าวว่า ตนเองยังไม่รู้เลยว่ากระบวนการเลือก สว. ในแต่ละระดับเป็นอย่างไร เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่ได้ให้ความสนใจเลย หากเกี่ยวข้องก็คงต้องสนใจแล้ว

ส่วนประเด็นเรื่องขบวนการทางกฎหมาย นายอนุทินกล่าวว่า หากมีการพาดพิงถึงคนของพรรคภูมิใจไทย พรรคก็พร้อมใช้สิทธิตามกฎหมาย ทั้งการฟ้องหมิ่นประมาทในกรณีที่เข้าข่าย การฟ้องแจ้งความเท็จ หรือการฟ้องละเมิด เพราะพรรคต้องพร้อมที่จะปกป้องชื่อเสียงและคุณค่าของพรรค ซึ่งมี ส.ส. ที่ประชาชนเลือกมาถึง 70 คน และมีคะแนนปาร์ตี้ลิสต์นับล้านเสียง จึงจำเป็นต้องรักษาคุณค่าและความไว้วางใจของประชาชน

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการออกหมายเรียกถึงระดับรัฐมนตรีอีกหรือไม่ นายอนุทินยืนยันว่า เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทยอีกเช่นกัน พร้อมเชิญชวนให้นำประกาศคำสั่งของหัวหน้าพรรคไปอ่าน เพื่อดูว่าลูกพรรค กรรมการบริหารพรรค และรัฐมนตรีของพรรค ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ในการที่จะต้องออกห่างและไม่ไปข้องเกี่ยวกับการเลือกตั้ง สว. โดยสิ้นเชิง

นายอนุทินกล่าวว่า การที่ตนออกคำสั่งดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าตั้งใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มานานแล้ว หรือที่เรียกว่า ‘ตั้งแต่ปีมะโว้’ ซึ่งหมายถึงนานมากแล้ว จึงไม่ควรที่จะคิดมโนหรือยัดเยียดข้อกล่าวหาให้กับพรรคภูมิใจไทย หากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามได้ และพร้อมให้ความร่วมมือในการชี้แจง เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองอยู่แล้วตั้งแต่ระดับจุลภาคไปจนถึงมหภาค และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับประชาชนเลย

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องคดีนี้ทำให้ไม่มีคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ประชาชนจะได้ หรือสิ่งที่รัฐบาลจะทำเพื่อประชาชนมาเป็นเวลาถึง 2 เดือนแล้ว โดยตนและสมาชิกพรรคภูมิใจไทยไม่ได้หยุดทำงาน แต่ ‘หายเข้ากลีบเมฆไปหมด’ คือหายไปทำงานให้กับประชาชน ลงพื้นที่ต่างๆ แทนที่จะมาเสียเวลากับเรื่องที่ไร้สาระ ไม่ได้คะแนน ไม่ได้ความนิยม

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของตน นายอนุทินกล่าวว่า ตนไม่ได้พบปะกับนายทักษิณในช่วงนี้ตั้งแต่หลังวันที่ 11 เมษายน และหากมีการชื่นชมจริงก็กราบขอบพระคุณ เพราะตนเองพร้อมสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่ ทุ่มเทสุดหัวใจ เนื่องจากเห็นใจนายกฯ ที่ทำงานหนัก เสียสละ และเป็นหัวหน้ารัฐบาลที่ตนสังกัดอยู่ โดยยืนยันว่าเรื่องงานตนเองเต็มที่ ไม่มีอะไรซ่อนเร้น มีแต่แว่นตา ไม่มีมีด

เมื่อถามถึงการที่บางคนกล่าวว่าตนไปผ่าตัดตามาแต่หน้าตาสดใส นายอนุทินกล่าวว่า อาจเป็นเพราะตนไม่เครียด และได้อโหสิกรรมให้กับคนที่คิดไม่ดี ขอให้ทุกคนมีความสุขความเจริญตามหลัก สัพเพ สัตตา อะเวรา

สุดท้าย เมื่อถูกถามย้ำว่าที่ไม่เครียดเพราะมีแผนรับมือทางการเมืองแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินปฏิเสธว่าไม่ใช่ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด และมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ทำอะไรผิดตามข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้บทวิเคราะห์ทางการเมืองบางส่วนกลายเป็นเรื่องตลกไป เพราะไม่มีใครพูดถึงประชาชนเลย พร้อมเปรียบเทียบว่าเรื่องคดีนี้กำลังจะแซงเรื่องภัยจากนโยบายภาษีของทรัมป์แล้ว และเตือนว่าอย่าลืมประเด็นสำคัญเหล่านั้น มัวแต่ถกเถียงเรื่องใครถูกใครผิด องค์กรอิสระควรหรือไม่ควร ซึ่งไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ขอให้กลับไปทำงานดีกว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *