กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงมติสำคัญของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ที่ประชุมเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องประชุมราชบุรีดิเรกฤทธิ์ อาคารศาลยุติธรรม โดยมีมติลงโทษข้าราชการตุลาการ 3 ราย ฐานความผิดวินัยร้ายแรง

การประชุม ก.ต. ครั้งที่ 13/2568 มีวาระการพิจารณาหลายเรื่อง รวมถึงการพิจารณาผลการสดับตรับฟังข้อเท็จจริงและการรายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการ ซึ่งนำมาสู่มติลงโทษทางวินัยร้ายแรงในครั้งนี้

สำหรับรายละเอียดมติลงโทษข้าราชการตุลาการทั้ง 3 ราย มีดังนี้:

• รายที่ 1: ก.ต. พิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการรายหนึ่ง กรณีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่สุภาพ ไม่สำรวมกิริยามารยาท และเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการตุลาการอื่น ซึ่งถือเป็นการไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนและประเพณีปฏิบัติของราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการ พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นความผิดวินัยร้ายแรง ที่ประชุม ก.ต. จึงมีมติ เห็นควรให้ออกจากราชการ
• รายที่ 2: พิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการอีกราย กรณีเป็นผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนทำคำพิพากษาโดยกล่าวถึงบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เป็นคู่ความและไม่ได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยว่ามิได้กระทำความผิด โดยไม่ปรึกษาและแจ้งให้องค์คณะและผู้บริหารทราบ ซึ่งเป็นเหตุให้มีการนำคำพิพากษาส่วนดังกล่าวไปใช้ประโยชน์โดยมิชอบ พฤติการณ์นี้ถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง ก.ต. จึงมีมติ เห็นควรให้ออกจากราชการ เช่นเดียวกัน
• รายที่ 3: พิจารณารายงานผลการสอบสวนข้าราชการตุลาการอีกราย กรณีมีพฤติการณ์เป็นที่สงสัยว่ากระทำผิดวินัย ร่วมรู้เห็นเรื่องการขอแลกเปลี่ยนเวร และร่วมขบวนการเกี่ยวกับการยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งปล่อยชั่วคราว โดยมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวขัดต่อกฎหมาย อันเป็นดุลพินิจที่ไม่ชอบ และไม่ถือปฏิบัติตามระเบียบแบบแผน ประเพณีปฏิบัติของราชการ และจริยธรรมของข้าราชการตุลาการ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง พฤติการณ์นี้ ก.ต. มีมติ เห็นควรไล่ออกจากราชการ และมีมติเอกฉันท์ให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุม ก.ต. ยังมีมติอื่นๆ เช่น รับทราบรายงานผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตุลาการ 3 ราย, เห็นชอบให้ทบทวนมติ ก.ต. ครั้งที่ 21/2567 เกี่ยวกับการแต่งตั้งให้เลื่อนชั้น 3 เป็นชั้น 4 และปฏิเสธบัญชีวาระพิเศษ 1 ราย, และเห็นชอบรายงานผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการ ก.ต. เกี่ยวกับการคัดเลือกผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวหลายจังหวัด.

มติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มงวดในการตรวจสอบและลงโทษทางวินัยต่อข้าราชการตุลาการ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือและมาตรฐานทางจริยธรรมของสถาบันศาลยุติธรรม.