ศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งจำคุก “กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์” 2 ปี คดีตัวกลางเรียกรับผลประโยชน์ “บอสพอล ดิไอคอน” ไม่รอลงอาญา พร้อมยกฟ้องข้อหากรรโชกทรัพย์

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุกนางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ เป็นเวลา 3 ปี ในความผิดฐานเป็นตัวกลางเรียกรับผลประโยชน์ ก่อนลดโทษเหลือ 2 ปี เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยไม่รอลงอาญา ขณะที่ยกฟ้องในข้อหากรรโชกทรัพย์ ในคดีที่เกี่ยวข้องกับนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ดิไอคอน

วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ดิไอคอน เปิดเผยถึงผลการพิจารณาคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์และกรรโชกทรัพย์นายวรัตน์พล

คดีนี้ ศาลได้พิจารณาความผิดเป็น 2 ข้อหาหลัก โดยในข้อหาเป็นตัวกลางเรียกรับผลประโยชน์ ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก น.ส.กฤษอนงค์ เป็นเวลา 3 ปี อย่างไรก็ตาม ศาลได้พิจารณาถึงการให้การที่เป็นประโยชน์ของจำเลย จึงมีคำสั่งลดหย่อนโทษลงเหลือจำคุก 2 ปี และที่สำคัญ ศาลพิพากษาว่าโทษจำคุกนี้ ‘ไม่รอการลงโทษ’ ซึ่งหมายความว่า น.ส.กฤษอนงค์จะต้องถูกคุมขังตามคำพิพากษา

ในส่วนของข้อหากรรโชกทรัพย์ ซึ่งเป็นอีกข้อหาที่ถูกฟ้องร้อง ศาลกลับมีคำสั่งพิพากษายกฟ้อง โดยนายวิฑูรย์ ทนายความของบอสพอล ได้กล่าวถึงเหตุผลที่ศาลยกฟ้องในข้อหานี้ว่า ศาลมองว่าพยานหลักฐานและการกระทำไม่ปะติดปะต่อกัน โดยเฉพาะช่วงระยะเวลาระหว่างการข่มขู่ผ่านทางโทรศัพท์กับการจ่ายเงินนั้นห่างกันมากพอสมควร ศาลจึงเห็นว่า นายวรัตน์พลไม่น่าจะอยู่ในภาวะที่หวาดกลัวแล้วในขณะที่มีการจ่ายเงิน ทำให้ศาลยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย และพิพากษายกฟ้องในที่สุด

นายวิฑูรย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามกระบวนการทางกฎหมาย พนักงานอัยการในฐานะโจทก์ยังมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาในส่วนที่ศาลยกฟ้องข้อหากรรโชกทรัพย์ได้

เมื่อสอบถามถึงท่าทีของ น.ส.กฤษอนงค์ ภายหลังฟังคำพิพากษา นายวิฑูรย์ระบุว่า ก่อนการอ่านคำพิพากษา น.ส.กฤษอนงค์ดูมีความมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะในคดีนี้ แต่เมื่อผลคำพิพากษาออกมาว่าถูกลงโทษจำคุก ก็มีท่าทีเสียใจให้เห็นบ้าง

ในส่วนของ นายวรัตน์พล หรือ บอสพอล นายวิฑูรย์กล่าวว่า ตนได้แจ้งผลคำพิพากษาผ่านเลขาของบอสพอลแล้ว และได้รับทราบว่าบอสพอลไม่ได้แสดงความยินดียินร้ายเป็นพิเศษกับผลลัพธ์ของคดีนี้ และในตอนแรกยังรู้สึกตกใจด้วย เนื่องจากไม่คาดคิดว่าศาลจะตัดสินลงโทษจำคุกจำเลยในคดีนี้

คำพิพากษาดังกล่าวถือเป็นบทสรุปเบื้องต้นของคดีนี้ ซึ่งยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีการยื่นอุทธรณ์ในส่วนของข้อหากรรโชกทรัพย์ต่อไปตามกระบวนการยุติธรรม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *