พาณิชย์-บก.ปอศ. สนธิกำลัง บุกทลายโกดังสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา มูลค่ากว่า 52 ล้านบาท เตือนภัยผู้บริโภค
พาณิชย์-บก.ปอศ. สนธิกำลัง บุกทลายโกดังสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา มูลค่ากว่า 52 ล้านบาท เตือนภัยผู้บริโภค
กรุงเทพฯ – กระทรวงพาณิชย์ โดยคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) สนธิกำลังเข้าตรวจค้นและทลายแหล่งเก็บสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาครั้งใหญ่ ยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 52 ล้านบาท
การดำเนินการครั้งนี้ นำโดย ร้อยตรี จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะทำงานฯ ร่วมกับ พลตำรวจตรี ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และนายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง บก.ปอศ., กรมทรัพย์สินทางปัญญา และตัวแทนเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้รับความเสียหาย
จากการเข้าตรวจค้น สามารถยึดของกลางได้ทั้งสิ้นจำนวน 78,223 ชิ้น มูลค่าประมาณ 52,307,283 บาท โดยสินค้าที่ยึดได้มีความหลากหลายประเภท อาทิ วิตามิน อาหารเสริม เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และกระเป๋าแบรนด์เนม เป็นต้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้มีการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าทั้งของคนไทยและของต่างประเทศ
เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าสินค้าของกลางที่ตรวจพบในครั้งนี้น่าจะเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ การกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่อผู้ประกอบการไทย เจ้าของเครื่องหมายการค้า และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ทั้งในด้านการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และการสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี
นอกจากนี้ สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหลายรายการ โดยเฉพาะกลุ่มวิตามิน อาหารเสริม และเครื่องสำอาง อาจมีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน หรือมีส่วนผสมที่เป็นอันตราย ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนผู้บริโภค รวมถึงอาจสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน การผลิตและจำหน่ายสินค้าปลอมลักษณะนี้จึงถือเป็นอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง และอาจมีความเชื่อมโยงกับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ
เพื่อป้องกันและปราบปรามปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืน คณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จะมีการหารือบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB), กรมทรัพย์สินทางปัญญา, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อกำหนดแนวทางบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้น อาทิ การตรวจสอบการเสียภาษี, การตรวจสอบการฟอกเงิน, การตรวจสอบมาตรฐานสินค้า, การดำเนินการกับผู้ต้องหาชาวต่างชาติ และการตรวจสอบนิติบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
กระทรวงพาณิชย์ จึงขอแจ้งเตือนและย้ำเตือนประชาชนผู้บริโภค ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเลือกซื้อสินค้า โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ควรเลือกซื้อจากร้านค้า ตัวแทนจำหน่าย หรือแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือเท่านั้น ไม่สนับสนุนสินค้าและการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อสินค้าที่ไม่มีคุณภาพและอันตราย รวมถึงเป็นการร่วมกันปกป้องเศรษฐกิจไทยและสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของผู้ประกอบการที่สุจริต.