ว.วชิรเมธี ยัน ‘ไร่เชิญตะวัน’ ไม่ได้ร้าง! ชี้แค่ช่วง ‘โลว์ซีซั่น’ เจอพิษศก.-สารพัดปัญหาในพื้นที่ ยันฟ้องยูทูบเบอร์บุกรุก-นำเสนอเท็จ
เชียงราย – จากกรณีที่สื่อและโซเชียลมีเดียบางส่วนได้นำเสนอภาพและข้อมูลในทำนองว่า ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน จังหวัดเชียงราย หรือที่รู้จักในนาม ‘ไร่เชิญตะวัน’ ซึ่งสร้างและดูแลโดยท่าน ว.วชิรเมธี (พระเมธีวชิโรดม) มีสภาพเงียบเหงา รกร้าง หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวข้องกับกรณี ‘ดิไอคอน’ ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังไร่เชิญตะวัน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบถามจากผู้ปฏิบัติงานภายใน โดยได้มีโอกาสเข้าพบท่าน ว.วชิรเมธี ซึ่งได้ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวว่า ที่ผ่านมาติดภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมีวัดที่ดูแลอยู่ 3 แห่ง ทำให้ต้องเดินทางไปมาระหว่างประเทศ และเพิ่งเดินทางกลับจากญี่ปุ่นได้ประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากเสร็จสิ้นงานตัดลูกนิมิตพระราชทาน
จากการสังเกตเบื้องต้น พบว่าสถานที่ต่างๆ ภายในศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวันยังคงอยู่ในสภาพสะอาดเรียบร้อย ได้รับการดูแลจากบุคลากรภายในเป็นอย่างดี บรรยากาศยังคงดูสงบเงียบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าจำนวนผู้เข้าชมหรือผู้ปฏิบัติธรรมอาจดูน้อยลงกว่าช่วงเวลาปกติ
ท่าน ว.วชิรเมธี ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไร่เชิญตะวันไม่ได้มีสภาพเป็นวัดร้างแต่อย่างใด การที่ผู้คนดูบางตาลงในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นช่วง ‘โลว์ซีซั่น’ หรือฤดูฝน ซึ่งปกติแล้วจะไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนจำนวนมากเท่าช่วงฤดูแล้งหรือปลายปี ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
นอกจากนี้ ท่านยังชี้ให้เห็นถึงปัจจัยเฉพาะที่ส่งผลกระทบต่อจังหวัดเชียงรายในช่วงที่ผ่านมา โดยเมื่อปีที่แล้วเชียงรายประสบปัญหาน้ำท่วมยาวนานกว่า 3 เดือน ต้นปีก็ต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในระดับวิกฤต และล่าสุดยังเจอปัญหาน้ำแม่กกปนเปื้อนสารพิษ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเดินทางและการท่องเที่ยวในพื้นที่ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งมีนักท่องเที่ยวลดน้อยลงเช่นกัน
ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวถึงกรณีที่มียูทูบเบอร์นำเสนอภาพไร่เชิญตะวันในลักษณะวัดร้างว่า ไม่กี่วันก่อนมีผู้บุกรุกเข้ามาถ่ายภาพภายในวัดหลังช่วงเวลาทำการ โดยเฉพาะบริเวณกุฏิเก่าและโกดังที่อยู่ในระหว่างการปรับปรุง จากนั้นได้นำภาพไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียในทำนองว่าวัดร้าง ไร้ผู้คน ซึ่งเป็นการนำเสนอที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หลังจากทราบข่าว ลูกศิษย์ที่เป็นนักกฎหมายไม่พอใจและกำลังดำเนินการตามกฎหมายเพื่อฟ้องร้องยูทูบเบอร์รายนี้แล้ว
ท่าน ว.วชิรเมธี วอนขอให้สื่อและผู้เผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลมีเดีย นำเสนอข่าวสารบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง อย่าคาดเดาหรือคิดเอาเอง เพราะการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้องส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ และความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในภาพรวม
แม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่ท่านยืนยันว่าที่ไร่เชิญตะวันยังคงมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวันวิสาขบูชาที่ผ่านมาก็มีพุทธศาสนิกชนมาร่วมงานอย่างคึกคัก และในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีชาวต่างชาติกว่า 200 คน เดินทางมาเข้ารับการอบรมวิปัสสนาที่นี่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไร่เชิญตะวันยังคงดำเนินการตามปกติ ไม่ได้ร้างแต่อย่างใด การบอกว่าเป็นวัดร้างจึงเข้าข่ายเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินผิดกฎหมายที่เกิดขึ้นกับบางวัดในขณะนี้ ท่าน ว.วชิรเมธี กล่าวว่า คงไม่ไปก้าวล่วงการดำเนินงานของสถานที่อื่น แต่สำหรับวัดไร่เชิญตะวัน มีการดำเนินงานในรูปแบบของ ‘มูลนิธิ’ มีบัญชีรายรับรายจ่ายที่ชัดเจน โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา