ฉะเชิงเทรา, ประเทศไทย – XAG ผู้นำด้านเทคโนโลยีโดรนเกษตรและระบบอัตโนมัติ ได้เปิดตัวศูนย์บริการแห่งใหม่ภายใต้ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมเกษตรของไทย ณ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมสำคัญของภาคกลาง โดยศูนย์บริการแห่งนี้เป็นส่วนสำคัญของโครงการ “Chia Tai Experience” เพื่อมอบบริการซ่อมบำรุงและดูแลรักษาโดรนการเกษตรและอุปกรณ์ฟาร์มอัจฉริยะแบบครบวงจรแก่เกษตรกรไทย

คุณมนัส เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายของโครงการ Chia Tai Experience ว่า มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืนเพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทย โดยเฉพาะชาวนา ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของภาคเกษตรกรรมไทย ให้พัฒนาตนเองสู่การเป็นเกษตรกรมืออาชีพ การพัฒนาองค์ความรู้และทักษะในหลากหลายมิติ เช่น การเพาะปลูก การใช้เทคโนโลยี การจัดการธุรกิจ และการตลาด จะเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนการเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน ทั้งยังช่วยดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจอาชีพเกษตรกรรม และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในทุกด้าน

การเปิดศูนย์บริการ XAG ประเทศไทยแห่งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์ภายหลังจากการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างสามพันธมิตรชั้นนำในวงการเกษตรและเทคโนโลยี ประกอบด้วย XAG, เจียไต๋, และ ยันม่าร์ เอส.พี. ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกลการเกษตร

ภายใต้กรอบความร่วมมือนี้ XAG จะเป็นผู้ส่งมอบเทคโนโลยีเกษตรอัตโนมัติที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมและบริการหลังการขายที่ครบวงจร โดยทำงานร่วมกับเจียไต๋และยันม่าร์ เอส.พี. เพื่อนำเสนอโซลูชันที่เชื่อมโยงทุกขั้นตอนของวงจรการเกษตรอย่างราบรื่น ตั้งแต่การเตรียมแปลง การเพาะปลูก การจัดการฟาร์ม ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว

ศูนย์บริการ XAG ประเทศไทยที่ฉะเชิงเทรานี้ จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการใช้งานโดรนในชีวิตประจำวันของเกษตรกรไทย เช่น การใช้โดรนหว่านเมล็ดโดยตรง การพ่นสารปกป้องพืช และการหว่านปุ๋ยแบบแม่นยำ ด้วยบริการที่เข้าถึงง่ายในระดับท้องถิ่น พร้อมทีมผู้ชำนาญการที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคโดยเฉพาะ

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 เป็นต้นมา XAG ได้ทำงานร่วมกับเจียไต๋อย่างใกล้ชิดในการนำเสนออุปกรณ์การเกษตรแม่นยำหลากหลายประเภทสู่ตลาดประเทศไทย อาทิ โดรนการเกษตรรุ่นใหม่ล่าสุดจาก XAG, ชุดควบคุมอัตโนมัติที่ทันสมัย, และระบบให้น้ำและปุ๋ยอัจฉริยะ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดการใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ.