ปะทะเดือดชายแดน! กะเหรี่ยงยิงฐานทหารเมียนมาตรงข้ามท่าสองยาง ชาวบ้านหนีตายข้ามฝั่ง ทหารไทยตรึงกำลังเข้ม

ตาก – สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังเสียงปืนสงบไปได้เพียง 2 วัน กองกำลังผสมกะเหรี่ยง ทั้งทหารชุดเคลื่อนเร็วกองกำลังทหารเคเอ็นแอลเอ (KNLA) และทหารเคเอ็นดีโอ (KNDO) จำนวนมาก ได้นำกำลังพร้อมอาวุธหนักเข้าปิดล้อมและโจมตีฐานที่ตั้งของทหารเมียนมาอย่างดุเดือดในช่วงบ่ายที่ผ่านมา

การโจมตีในครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่ฐานที่ตั้งทหารเมียนมา บริเวณกองพันทหารราบที่ 24 ฐานมอโพเก้ ในพื้นที่บ้านจอเกทะ อำเภอแลงปอย จังหวัดผาอัน รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านแม่ต้าน ตำบลแม่ต้าน อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ห่างจากแนวชายแดนริมแม่น้ำเมยไปประมาณ 500 เมตร กองกำลังกะเหรี่ยงได้นำหมู่บินโดรนติดลูกระเบิดหนัก รวมถึงทหารราบที่ติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดและปืนกล เข้าทำการโจมตีและทิ้งระเบิดจากโดรนอย่างต่อเนื่อง

เสียงปืนและเสียงระเบิดที่ดังสนั่นไปทั่วแนวชายแดนไทย-เมียนมาในระลอกล่าสุดนี้ ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนชาวเมียนมาผู้หนีภัยความไม่สงบที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง ประมาณ 100 คน ต่างต้องรีบอพยพอย่างฉุกละหุก โดยหลายคนอุ้มลูกจูงหลาน พร้อมกระเป๋าสัมภาระเท่าที่ขนได้ วิ่งหนีตายเร่งรีบข้ามแม่น้ำเมยเข้ามายังฝั่งประเทศไทยเพื่อความปลอดภัย

ทันทีที่ชาวเมียนมาผู้หนีภัยเดินทางข้ามมาถึงฝั่งไทย ทางหน่วยงานความมั่นคงของไทย ประกอบด้วย ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 กองกำลังนเรศวร ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 344 และฝ่ายปกครองอำเภอท่าสองยาง ได้เข้าให้การรับตัวและดูแลความปลอดภัย พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมในพื้นที่ปลอดภัยที่จัดเตรียมไว้ภายในอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้หนีภัยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหากการสู้รบยังคงดำเนินต่อไป

ล่าสุด สถานการณ์การยิงปะทะระหว่างทหารทั้งสองฝ่ายยังคงเป็นไปอย่างหนักหน่วงและดุเดือด สามารถมองเห็นการสู้รบได้อย่างชัดเจนจากฝั่งอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในตัวอำเภอท่าสองยาง ซึ่งอยู่ห่างออกไป ต่างตกใจกับเสียงระเบิดที่ดังสนั่นจนทำให้กระจกบ้านสั่นสะเทือน หลายคนต้องเตรียมความพร้อมและหาพื้นที่หลุมหลบภัยเพื่อป้องกันตนเองไว้ก่อน

จากสถานการณ์ที่ยังคงรุนแรงนี้ คาดการณ์ว่าทหารทั้งสองฝ่ายจะยังคงมีการยิงปะทะกันตลอดทั้งคืน ทางด้านกองกำลังของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 344 ได้จัดกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือ เพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวนตามแนวชายแดน พร้อมนำอาวุธหนักเข้าประจำที่ตามแผนเผชิญเหตุ เพื่อเตรียมพร้อมยิงสนับสนุนในกรณีที่จำเป็น เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยตามแนวชายแดนอย่างเต็มกำลังความสามารถตลอด 24 ชั่วโมง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *