บวช 7 พรรษา สุดเสื่อม! ตร.บุกจับหลวงพี่ฉี่ม่วง คาวัด เจออุปกรณ์ครบชุด สารภาพเอเย่นต์ส่งยาถึงกุฏิ
ชลบุรี – ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ บุกเข้าจับกุมพระสงฆ์คาวัด หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้าน พบปัสสาวะเป็นสีม่วงพร้อมอุปกรณ์การเสพสารเสพติด พระยอมรับเสพยาบ้าจริง และมีเอเย่นต์นำมาส่งให้ถึงวัด แถมเคยเสพร่วมกับเพื่อนในกุฏิ เจ้าอาวาสจับสึกทันที ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 พันตำรวจเอก อรรถพล อิทธโยภาสกุล ผู้กำกับการ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ประกอบด้วย พันตำรวจโท นพดล รักษาวงค์ รองผู้กำกับการสืบสวน, พันตำรวจโท บงกช ประเสริฐรัตน์ สารวัตรสืบสวน และร้อยตำรวจเอก ธิติวุฒิ ทำลา รองสารวัตรปราบปราม ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบภายในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่
รายงานจากชาวบ้านระบุว่า พบเห็นพระภิกษุสงฆ์ภายในวัดมีพฤติกรรมน่าสงสัย คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการใช้สารเสพติด ซึ่งสร้างความกังวลใจว่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น และเป็นเรื่องที่ทำลายความเสื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ เข้ามาดำเนินการตรวจสอบโดยเร่งด่วน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึง พบว่าบรรยากาศภายในวัดค่อนข้างเงียบสงบ ได้เข้าตรวจสอบที่ห้องพักของพระโชค อายุ 44 ปี ซึ่งพักอยู่ที่ห้องพักหมายเลข 4 เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคาะประตูเรียกและแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจสอบ
พระโชคได้เปิดประตูและให้การยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่โดยทันทีว่า ตนเองได้เสพสารเสพติดจริง โดยเป็นยาบ้าจำนวน 2 เม็ดในช่วง 3 วันที่ผ่านมา
จากการเข้าตรวจค้นภายในห้องพักของพระโชค เจ้าหน้าที่ต้องพบกับภาพที่น่าตกใจ เมื่อพบซองซิปบรรจุยาเสพติด หลอดแก้ว และหลอดพลาสติก ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเสพสารเสพติด วางอยู่ในขันน้ำพลาสติกอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่มีการพยายามซุกซ่อนหรือหลบเลี่ยงแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวพระโชคไปทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งผลการตรวจยืนยันว่าปัสสาวะของพระโชคเป็นสีม่วง ซึ่งบ่งชี้ว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกายจริง
พระโชคยังคงให้การรับสารภาพเพิ่มเติมว่า ยาเสพติดที่นำมาเสพนั้น ได้รับมาจากเอเย่นต์ที่นำมาส่งให้ถึงภายในบริเวณวัด และยอมรับด้วยว่าเคยมีเพื่อนที่เข้ามาหาที่ห้องพัก แล้วร่วมกันเสพยาเสพติดด้วย
พระโชคกล่าวด้วยความสำนึกผิดว่า รู้สึกเสียใจและผิดหวังในตัวเองอย่างมาก เนื่องจากตนเองได้บวชเรียนมาเป็นระยะเวลานานถึง 7 พรรษา แต่เพิ่งจะย้ายมาจำวัดอยู่ที่วัดแห่งนี้ได้ไม่ถึง 1 ปี
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวพระโชคไปพบกับเจ้าอาวาสของวัด เพื่อดำเนินการทำพิธีลาสิกขาให้ขาดจากการเป็นพระภิกษุสงฆ์ จากนั้นจึงควบคุมตัวพระโชคในสถานะฆราวาส ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดต่อไป.