กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้งในโลกออนไลน์ หลังจากช่องยูทูบชื่อดัง Kamsing Family Channel ซึ่งดำเนินรายการโดย เบสท์ รักษ์วนีย์ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอล่าสุดที่มีชื่อว่า “เส้นทางชีวิต โบ๊ท คำสิงห์ กว่าจะได้เตะบอลไทยลีก ผ่านอะไรมาบ้าง!?” ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์เปิดใจเรื่องราวชีวิตของ โบ๊ท ภูวรักษ์ น้องชาย

ในคลิปดังกล่าว เบสท์ ได้สัมภาษณ์ โบ๊ท ถึงเส้นทางชีวิตตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะเรื่องราวในวงการฟุตบอล ซึ่งโบ๊ทเล่าว่าตนเองชื่นชอบฟุตบอลมาตั้งแต่ 3 ขวบ และเริ่มเดินสายแข่งขัน รวมถึงเคยเข้าไปอยู่ในทีมฟุตบอลเยาวชนของสโมสรดังอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด และยังเคยพาทีมคว้าแชมป์รายการสำคัญอย่าง ไมโลฟุตซอล และได้ไปแข่งขันที่ประเทศจีนในวัยเพียง 12 ปี

อย่างไรก็ตาม โบ๊ท เผชิญกับช่วงที่หมดแพชชั่นจากการระบาดของโควิด-19 และหันไปติดเกม ก่อนจะกลับมาสู่เส้นทางฟุตบอลอีกครั้ง โดยปัจจุบันกำลังศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ และได้เข้าร่วมทีมฟุตบอลอาชีพกับสโมสร อุทัยธานี เอฟซี และเล่าถึงความประทับใจในการทำประตูแรกในฐานะนักเตะอาชีพ ซึ่งกลายเป็นไวรัลและช่วยลบคำสบประมาทบางส่วนลงได้

ในประเด็นเกี่ยวกับคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น “นักบอลคอนเทนต์” หรือ “เด็กเส้น” โบ๊ท ยืนยันว่าไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดเหล่านั้น เพราะคนที่ได้เห็นตนเองเล่นจริงๆ จะรู้ว่ามีความสามารถ พร้อมทั้งยืนยันว่าตนเองไม่เคยใช้เส้นสายใดๆ ในการเข้าสู่ทีมฟุตบอล หรือแม้แต่การเรียน รด. ซึ่งตนเลือกเรียนเองเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกล่าวหาว่าใช้เส้น

ซึ่งในระหว่างการสนทนาในประเด็นนี้ เบสท์ ได้เสริมขึ้นมาว่า “ครอบครัว คำสิงห์ ไม่เคยใช้เส้นเลย” และ โบ๊ท ก็ตอบกลับว่า “ใช่ แต่ว่ามีแต่คนประณามว่าเส้นเยอะ” ก่อนที่ เบสท์ จะกล่าวว่า “คุณอย่าคิดว่าสมรักษ์ คำสิงห์ มีเส้นขนาดนั้น” และ โบ๊ท ก็ได้พูดประโยคที่จุดประเด็นดราม่าว่า “เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง คุณคิดว่าสภาพสมรักษ์ตอนเนี้ย มันใช้อำนาจอะไรได้มั่ง สภาพสมรักษ์ตอนนี้”

เบสท์ เสริมอีกว่า โดยทั่วไปแล้วคนที่ใช้เส้นได้ต้องรวย ซึ่งพ่อของเธอ (สมรักษ์) ไม่ได้ร่ำรวย และพวกตนเองก็ไม่เคยใช้เส้นสายในการเรียน โดยเรียนโรงเรียนรัฐบาลมาตลอด

หลังจากคลิปนี้เผยแพร่ออกไป ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง โดยแบ่งออกเป็นสองมุมมองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

มุมมองแรก คือกลุ่มที่มองว่า เบสท์ และ โบ๊ท กำลัง “ขยี้” หรือตอกย้ำเรื่องราวเกี่ยวกับ สมรักษ์ คำสิงห์ มากเกินไป ทั้งๆ ที่เคยออกมาแถลงการณ์และประกาศจุดยืนของตนเองไปแล้ว โดยบางคอมเมนต์ระบุว่า “รู้ว่าพ่อก็ทำเรื่องเฮียๆไว้เยอะ แต่ออกรายการแฉประกาศชัดแล้ว ว่าถ้าพ่อทำอีกก็จะปล่อย ทุกคนเข้าใจแล้ว ก็พอแล้วไหมอ่ะ นี่พากันขยี้อีกเพื่อ”

ในขณะที่ มุมมองที่สอง คือกลุ่มที่แสดงความเห็นใจและเข้าใจในสถานการณ์ของ เบสท์ และ โบ๊ท ที่ต้องเผชิญกับผลกระทบและคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากเรื่องราวของพ่อ

เหตุการณ์นี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการรับรู้และตีความของสาธารณชนที่แตกต่างกันออกไป ต่อประเด็นละเอียดอ่อนภายในครอบครัวคนดังที่ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง