กรุงเทพฯ, 19 พฤษภาคม 2568 – ภาพยนตร์ ซีรีส์ และบริการเกี่ยวเนื่องจากประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จอย่างโดดเด่นในเวทีระดับโลก โดยทำยอดขายรวมสูงถึง 227 ล้านบาท ภายในช่วง 3 วันแรกของการเข้าร่วมงาน Marché du Film ภายใต้เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ (Cannes Film Festival 2025) ณ เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส

น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยถึงผลสำเร็จเบื้องต้นจากการที่กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซีรีส์ และบริการเกี่ยวเนื่องของไทย เข้าร่วมงาน Marché du Film ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ว่า คอนเทนต์ไทยยังคงได้รับความนิยมและเป็นที่สนใจจากผู้ผลิต ผู้สร้าง ผู้จัดจำหน่าย และนักธุรกิจนานาชาติอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 3 วันแรกของการจัดงาน ณ คูหา Thailand Pavilion ได้มีการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้า (Business Matching) เกิดขึ้นรวม 183 นัดหมาย คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 227 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความต้องการคอนเทนต์ไทยในตลาดต่างประเทศอย่างแท้จริง

อธิบดี DITP กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ ภาพยนตร์แนวสยองขวัญจากประเทศไทยยังคงเป็นแนวคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งและได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดโลก ด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมาอย่างยาวนานและได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลกต่อเนื่องมาตั้งแต่ภาพยนตร์ระดับตำนานอย่าง นางนาก, ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ, พี่มาก..พระโขนง, ร่างทรง จนถึงปรากฏการณ์ล่าสุดอย่าง ธี่หยด

ความสำเร็จเหล่านี้ทำให้ภาพยนตร์สยองขวัญของไทยกลายเป็นส่วนสำคัญของ “ซอฟต์พาวเวอร์” (Soft Power) ที่ทรงพลัง ดึงดูดความสนใจจากต่างชาติ และนำไปสู่การซื้อสิทธิ์เพื่อนำไปจัดฉายหรือเผยแพร่ในตลาดต่างประเทศจำนวนมาก

สำหรับตัวอย่างคอนเทนต์ไทยที่ต่างชาติให้ความสนใจและเกิดการเจรจาการค้าอย่างเป็นรูปธรรมในงานนี้ ได้แก่:

• ผู้ประกอบการไทยหลายรายได้มีโอกาสเจรจาการค้าครั้งแรกกับบริษัทจากสาธารณรัฐโกตดิวัวร์ (Ivory Coast) ซึ่งแสดงความสนใจอย่างมากที่จะซื้อสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยไปเผยแพร่ในทวีปแอฟริกาใต้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดสู่ภูมิภาคใหม่ๆ
• บริษัท เอ็ม ดิสทริบิวชั่น จำกัด ได้บรรลุข้อตกลงการขายสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่อง ธี่หยด 3 ให้กับบริษัทจากประเทศมองโกเลีย เพื่อนำไปจัดฉายในโรงภาพยนตร์ที่ประเทศมองโกเลีย ซึ่งนับเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่จะได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของประเทศดังกล่าว

การเข้าร่วมงาน Marché du Film ในครั้งนี้ มีเป้าหมายหลักเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทย สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในระดับนานาชาติ ส่งเสริมการเจรจาการค้าให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน รวมถึงเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ ความพร้อม และศักยภาพของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และคอนเทนต์ไทยให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างบนเวทีโลก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและการส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศอย่างยั่งยืน